electronic direct mailอย่างที่เคยเล่าเอาเมื่อตอนที่แล้วใน ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ 1 เป้าหมายหนึ่งในการทำDM หรือ e-DM คือการได้รับการตอบกลับจากกลุ่มเป้าหมาย แน่นอนว่าเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้น สิ่งจูงใจให้ผู้รับตอบกลับเรามา(Call-to-Action)คือ Offer หรือ ข้อเสนอ และข้อเสนอนั้นควรเป็นข้อเสนอที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกยากที่จะปฏิเสธ

หลักที่ใช้ในการเลือก Offer ที่ผมมักใช้อยู่เสมอ คือหลัก 3 ถูก ได้แก่ ถูกกลุ่ม ถูกใจ ถูกกาล

1. ถูกกลุ่ม ในการทำแคมเปญสำหรับ Direct Mail(DM) หรือ electronic Direct mail(e-DM หรือ email marketing ที่พวกชอบ SPAM ชอบทำกันนัก) นั้น หากเราส่งจดหมายออกไปโดยไม่เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เรามีจำนวนฐานข้อมูลมากแค่ไหนก็ส่งไปให้หมด โดยหวังว่ายิ่งส่งมาก โอกาสที่จะมีคนตอบกลับเราก็จะมากตามไปด้วย แต่มันไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป

สมมติว่า เราทำโรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์ประเภทเว็บโปรแกรมมิ่ง เราต้องการเพิ่มยอดผู้เรียนในวิชา “Advanced PHP Programming” ให้ได้ 10 % เรามีฐานข้อมูล 10,000 ชื่อที่มีทั้งโปรแกรมเมอร์ประเภทต่างๆและที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ และเราก็ส่งไปคอร์สวิชานี้พร้อมข้อเสนอลดพิเศษ 50% แต่มีผู้ตอบรับกลับ(Response)มายังไม่ถึง 50 คนหรือ 0.5 %(Response Rate) แม้ว่าตัว Offer คือส่วนลดจะน่าสนใจแต่การตอบรับดูจะไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ ถ้าเราส่ง email ในเชิงต้นทุนแล้วยังไม่ค่อยสูงเท่าใด แต่ที่เสี่ยงหน่อยคือภาพลักษณ์ของคุณในสายตาผู้รับอาจจะไม่ค่อยดีนัก ยิ่งถ้าส่งด้วยไปรษณีย์ธรรมดาแล้วต้นทุนต่อหัวคงจะสูงจนน่าตกใจ

แต่ถ้าหากปรับวิธีการส่งใหม่โดยทำการ Segment หรือแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ช้ดเจน เช่น เป็นโปรแกรมเมอร์หรือไปเป็น ถ้าเป็นแบ่งย่อยเป็นโปรแกรมเมอร์ประเภทไหน แบบ Visual Basic แบบ php เบื้องต้น หรือแบบศึกษามาบ้างแล้ว ฯลฯ ก็จะทำให้ จดหมายที่จะส่งออกไปตรงกลุ่มมากขึ้น สมมติถ้าเราแบ่งแยกว่าส่งไปยังกลุ่ม PHP Programmer ที่เขียนโปรแกรมมาบ้างแล้ว 1 – 3 ปีต้องการหาความรู้เพิ่มเติม ซึงภายหลังพบว่ามีอยู๋ในDatabase list ประมาณ 2000 คน ฉะนั้น Response Rate ก็จะอยู่ที่ 25 % ของจำนวน mail ที่ส่งออกไป(50*100/2000) ซึ่งถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า ยิ่งถ้าส่งไปรษณีย์ปกติก็ลดต้นทุนไปได้เยอะ แถมส่งได้ถูกกลุ่มอีกด้วยครับ

ครั้งหน้าเราจะมาต่อกันให้จบเลย กับสองข้อที่เหลือ พร้อม Case Studies ที่มาจากประสบการณ์จริงครับ

[tags]Direct Mail,DM,e-DM,Electronic Direct Mail,response,response rate,email marketing,segmentation[tags]

email marketing offerคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการส่ง email (e-DM: e-Direct Mail)หรือ ไปรษณีย์(DM: Direct Mail) มีบทบาทมากขึ้นทำการตลาดในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ไม่ว่าจะทำเพื่อสร้างฐานข้อมูลลูกค้าใหม่หรือรักษากลุ่มลูกค้าเดิมไว้ หรือแม้แต่การขายของผ่านDM และสิ่งที่นักการตลาดคาดหวังจากการส่งคือ การตอบกลับจากผู้รับ อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักการตลาดตรงมือใหม่มักพลาดคือการนำเสนอ Offer ที่ดี หรือการละเลยการวัดผลจากการส่ง DM หรือ e-DM

การส่ง e-DM หรือ DM เป็นวิธีการหนึ่งในการทำการตลาดแบบ Direct Marketing และลักษณะ 3 ประการของ Direct Marketing ที่ผมเคยเขียนไว้ใน http://www.thinkandclick.com/ เรื่อง CRM& database marketing ความเหมือนที่แตกต่าง(ภาคหนึ่ง) คือ

  • สื่อสาร 2 ทาง(Interacitivity): เป็นการทำการตลาดแบบสื่อสาร 2 ทางระหว่างผู้ส่งสาร/เจ้าของสินค้าหรือบริการ/นักการตลาดกับผู้รับสารหรือลูกค้า/กลุ่มเป้าหมาย
  • วัดค่าได้(Measurable) : สามารถวัดค่าได้อย่างค่อนข้างแน่นอนว่าเมื่อมีการส่งสารไปแล้วมีการตอบสนองมากน้อยเท่าไหร่
  • กิจกรรมเกิดขึ้นที่ใดก็ได้(Activities at any Location) : กิจกรรมที่วัดค่าได้นี้จะเกิดขึ้นที่ใดๆ ก็ได้ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง

ดังนั้น ทุกครั้งที่ทำ DM หรือ e-DM จำนวนผู้รับและตอบกลับเมลล์ที่เราส่งไปก็ คือเป้าหมายหนึ่งในการใช้เครื่องมือทางการตลาดตัวนี้ แล้วอะไรเล่าเป็นสิ่งที่ทำให้เป้าหมายบรรลุผล ก็ OFFER ไงล่ะครับ

ครั้งหน้าเรามาว่ากันต่อในเรื่องของ OFFER ที่ยากปฏิเสธครับ

Tags: , , , , , , , ,

วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งคุยกับอดีต CMS Developer ซึ่งเข้ามาเป็นพนง. ใหม่ในบริษัท เขาได้ทำการวิเคราะห์ website ของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ปัจจุบัน ซึ่งสิ่งที่เขาวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ตรงกับที่ผมได้เคยทำไว้ มีอยู่ข้อหนึ่งที่ผมและทีมไม่เคยนึกมาก่อนคือเรื่องการออกเสียง Domain Name

หลายบริษัทที่กำลังบุกตลาดต่างประเทศ มักจะจดชื่อบริษัทหรือชื่อสินค้าที่เป็นภาษาไทยเป็น Domain Name เช่น Bumrungrad.com เป็นของรพ.บำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นเว็บที่เขาทำให้ในส่วนของ International, mahaphant.com เป็นของกลุ่มบริษัทมหพันธ์ เจ้าของสินค้าห้าห่วงและไม้เฌอร่า หรือ ถ้าสมมติ sanook จะ go inter กับเขาบ้างแต่ยังใช้ Domain Name เดิมคือ sanook สิ่งที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายต่างชาติอาจฉงน เมื่อเจอกับชื่อเว็บเหล่านี้ได้แก่ การออกเสียงที่อาจจะไม่ตรงกับที่เจ้าของ domain name อยากให้ออกเสียง

อย่างคุณฝรั่งพนักงานใหม่นี้ ทีแรกแกออกเสียง bumrungrad เป็น บำ-รุง-แรด (ขออภัยครับถ้าออกเสียงหยาบ) หรือ mahaphant แรกๆแกก็อ่าน มะ-หะ-แฟน ไม่ยักรู้ว่าคุณฝรั่งมีแฟนอยู่แถวๆที่เราคุยกันหรีอไงก็ไม่ทราบ แต่สำหรับตัวอักษร PH ในภาษาอังกฤษจะออกเสียงเทียบได้กับตัว ฟ.ฟันของไทยเรา ไม่เชื่อคุณก็อ่านคำนี้ดูซิ “Elephant”, “Philosophy”

bumrungrad

วิธีแก้ของคุณฝรั่งคนนี้ก็คือ ใส่คำอ่านเข้าไป และใส่ความหมายของคำนั่นเข้าไปด้วยทำให้ domain name ดูมีความหมายมากขึ้น ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า About US ของ bumrungrad.com ก็จะเห็นประโยค

What does ‘Bumrungrad’ mean? This Thai word – pronounced Bahm-roong-RAHT – means “care for the people” 

เห็นมั้ยล่ะครับว่า การใส่วิธีการออกเสียง หรือที่เรียกว่า ” Pronunciation ” เข้าไปทำให้ Domain Name ดูมีความหมายลึกซึ่งและสื่อถึง Brand แค่ไหน

Tags: , , , , , ,

เป็นเวลาหลายๆวันแล้วที่ ICT ได้ทำการบล็อก Youtube ทำให้หลาย ๆ  blog ที่พึ่ง เว็บนี้อยู่พลอยโดนลูกหลงไปด้วย แต่ใช่ว่าเว็บประเภท Video Clip Sharing จะมีอยู่ยี่ห้อเดียวซะเมื่อไหร่ ผมจึงขอแนะนำเว็บไซต์ที่ให้บริการ Upload VDO Clip มานำเสนอ

สำหรับนัก Upload Clip ที่ดีๆ จากนี้ไปก็ควร Upload File ไว้หลาย ๆ ที่หน่อยเผื่อไว้ถ้าเกิดปัญหากับเว็บที่เรา Upload ไว้ก็จะได้ Switch ใช้ที่อื่นได้ครับ

CGM หรือ Consumer Generated Media ยุค 2 นั้นไม่จำกัดเพียงแค่เนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือเท่านั้น ด้วยความสามารถของApplication ที่ทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถนำเสนอ Content ทีอยู่ในรูป Rich Media หรือ Multimedia ได้อย่างง่ายๆ ด้วยเหตุนี้ CGM จึงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราเรียกเป็นส่วนหนึ่งของ CGM2

  • Moblogs, photo sharing - Moblogs บล็อกผ่านมือถือ ซึ่งส่วนใหญ่มาในรูปของ Photo Sharing เป็นภาพปันกันดูนั่นเอง ซึ่งมือถือถ่ายรูปได้ จะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก การอัพบล็อกผ่านมือถือ ถือเป็นการเชื่อมเทคโนโลยีบนเว็บและมือถือเข้าด้วยกันจนทำให้การสร้างเนื้อหาที่ทันสมัยทำได้ง่ายขึ้น อยากรู้ว่าสังคม moblog เป็นอย่างไร ลองเข้าไปที่ http://www.moblog.co.uk/ ดูซิครับ
  • Vlogs/personal videos. Blog ที่นำเสนอ Clip Vdo ทั้งส่วนตัวและส่วนรวมเพื่อให้เนื้อหาน่าชมขึ้น และเมื่อ youtube ได้กำเนิดขึ้นการทำให้การนำเสนอ clip vdo ผ่านบล็อกนั้นง่ายแสนง่าย ต.ย.ของ vlog ดังๆก็เช่น http://www.rocketboom.com/ , http://www.freevlog.com/
  • Podcasting. คงต้องขอบคุณ Feed Technology ทีทำให้เราได้รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่มการอัพเดท และเมื่อ  Multimedia + Feed =  Podcast เพียงแต่คุณต้องบอกผู้ชม/ผู้อ่านถึงเหตุผลสมัครรับ Podcast ของคุณ หากคุณยังไร้จัก Podcast ลองเข้าไป download iTunes มาใช้และเข้าไปที่ Music stores>podcast จะมี Podcast ให้คุณดาวน์โหลดเพียบ

เนื่องจาก CGM เป็นสิ่งที่ยากจะควบคุมเนื่องจากเป็นเนื้อหาที่ผลิตจากผู้ใช้ นักการตลาดบางครั้งใช้มันเพื่อสร้างกระแสโดยการทำ Viral Marketing บางครั้งเฝ้าดูกระแสเพราะ CGM เป็นเสมือนเสียงสะท้อนจากลูกค้าที่น่าสนใจมากกว่าการทำ Focus Group นั่นเอง

Tags:  ,, , ,,,,

อ่านเพิ่ม : ประเภท CGM