wordpress_optimization_book.jpgเพิ่งเที่ยวกลับมานะแหล่ะ ทานข้าวเย็นที่ Hot Pot เมเจอร์ปิ่นเกล้ากับน้องๆที่Office พอ 3 ทุ่มกว่าก็ไปต่อกับเพื่อนๆอีกกลุ่มที่อีกฟากของกรุงเทพ ที่วงษ์สว่างโน้นแน่ะ ดื่มไปเล็กน้อย ปกติผมไม่ค่อยดื่มแอลฯ เท่าไหร่เวลาไปเที่ยวเพราะต้องขับรถ ไม่ค่อยอยากดื่ม เพราะถ้าดื่มจะไม่ค่อยหยุด พอเที่ยงคืนก็กลับมาบ้านพระราม 3  ถึงก็ราวๆ ตีหนึ่ง แต่ไม่ง่วงเท่าไหร่ นึกขึ้นมาได้ว่าจะ Review หนังสือ Blog ทั้งสองเล่มของนายเดย์แห่ง idayblog.com มาตั้งหลายวันแล้ว ก็ถือโอกาสยังไม่ง่วงก็เขียนซะเลย ถึงแม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ขอหยิบความคิดเห็นมาแบ ฟัง

ผมอ่านหนังสือของนายเดย์ 2 เล่มที่ชื่อ WordPress กระแทกใจบล็อกเกอร์ และ WordPress Optimization 2 จบไปเมื่อหลายวันก่อน บางบทก็เปิดให้ผ่านตาบ้างเพราะเป็นเรื่องที่ผมเองก็ทำอยู่ โดยเฉพาะเล่มแรกในส่วนของการติดตั้งและการใช้ WordPress แบบเบื้องต้น แต่ผมก็เชื่อว่าหากผมเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้ Blogware อย่าง WordPress น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากในบทเหล่านั้น เพราะนายเดย์เค้าอธิบายเรื่องเหล่านี้ไว้เข้าขั้นละเอียดพอสมควร

ส่วนที่ผมอกจะสนใจเป็นพิเศษ จะเป็นเรื่องของการปรับแต่ง Blog นั่นแหละ เพราะช่วงหลายๆๆๆๆเดือนที่ผ่านมา ความพยายามในการหาสิ่งปรุงแต่ง Blog ของผมน้อยเต็มที ด้วยตัวงานที่ทำจะเน้นในเรื่องของ Strategy Formulation & Execution เป็นส่วนใหญ่ ทำให้การค้นหาความรู้ของผมจะไปในเชิงการพัฒนา Strategy ที่เกียวข้องกับงานซะมากกว่า จะเอาเวลาไหนไปในค้นหาวิธีปรับแต่ง blog ของตัวเอง ก็เลยต้องอาศัยความพยายามของนายเดย์ ที่เค้าถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือนี่แหละ มาช่วย ก็ลองใช้ดูเช่น Blogsticker หรือไม่ก็ FlickrRSS แต่ส่วนใหญ่จะลองทำผ่าน Local Server ก่อนแต่ยังไม่ได้ Upload ไปยัง Server จริง

แต่สิ่งที่ผมอยากให้ใครซักคนเขียนเรื่อง WordPressคือเรื่องการของสร้าง Theme ไว้ใช้เองเพราะทุกวันนี้ยังพึ่งพา Theme ของคนอื่นอยู่เลย ทั้ง ๆที่ก็รู้ๆอยู่ว่า วิธีที่จะเรียนรู้อย่างง่ายๆ(มั๊ง)ก็คือลองหัดแกะ Code ของ Themeต่างๆ ดูและก็ลองทำตาม แล้วค่อยปรับแต่ก็มิวายต้องเจียดเวลาน้อยนิดมาทำซึ่งคงอีกนานกว่าหาเวลานั้นเจอ

โดยรวมแล้วก็ถือว่าทั้งสองเล่มหน้าสนใจดี หากเป็นมือสมัครเล่นหรือมือใหม่หัดใช้Wordpress คงต้องไล่อ่านตั้งแต่เล่มแรกซะก่อน

หมายเหตุ:ยืมรูปจากtaradedu.com มาปรับหน่อยนะคุณป้อมอย่าว่ากัน
ไว้จะเขียนหนังสือให้เสร็จเร็ว ๆ :))

Tags: , , ,

คุณเคยได้ยินชื่อเหล่านี้บ้างมั้ย Brian Lam, Peter Rojas, Victor Agreda บอกตรงๆว่าผมแทบจะไม่รู้จักเลย แต่ถ้าถามว่ารู้จัก Gizmodo.com และ Engadget ใช่แล้ว ! แหล่งข้อมูล gadget/ Toys นั่นไง หรือ เว็บบล็อกเล่าเรื่อง Do it Yourself อย่าง diylife.com ที่เมื่อคุณได้อ่านบล็อกนี้แล้วทำให้ของไร้ค่าของคุณกลายเป็นเงิน

หลายๆครั้งที่ผมอ่าน Blog เหล่านั้นหรืออีกหลายเหล่า ชื่อของ Bloggerใน Blog ก็เพียงผ่านตาแต่ไม่ได้่ถูกบันทึกลงไปในระบบความจำของผม เว้นแต่ Blog นั้นจะเป็นใช้่ชื่อ Blogger เป็นชื่อฺ Blog

Read More →

brandage-ecommerce.pngเมื่อวานเพิ่งแนะนำหนังสือน่าสนใจราคาแพงไป วันนี้ก็ขอแนะนำหนังสืออีกเล่มสำหรับคนทำ E-Commerce เพื่อเป็นกรณีศึกษาครับ จากที่จั่วหัวไว้ หนังสือที่ว่าคือแมกกาซีนเชิงการตลาดที่ชื่อ Brandage เป็นแมกกาซีนด้านการตลาดที่ผมอ่านเป็นประจำตั้งแต่ออกมาเล่มแรกเมื่อประมาณ7 – 8 ปีที่แล้ว และผมเองก็เป็นสมาชิก Brandage มากว่า 7 ปีแล้ว (Brandage เคยมาสัมภาษณ์ผมเรื่อง E-Commerce ในสมัยที่ E-commerce เพิ่งเข้ามาเมืองไทยใหม่ ด้วยนะครับ จะบอกให้  แต่เล่มไหน สงสัยต้องไปค้นมาดูแล้ว เหอ เหอ เหอ … )

Brandage เป็นแมกฯที่ให้ข้อมูลความรู้เชิงการตลาดโดยเฉพาะเรื่อง Branding และ Brand Strategy กลุ่มคนทำงานของหนังสือ Brandage เป็นกลุ่มคนที่คร่ำหวอดในวงการหนังสือและแมกฯเชิงการตลาดมานาน ที่ผมหยิบเล่มล่าสุด Brandage ปีที่ 8 ฉ. 12 มาคุยเพราะ คำโปรย บนปกอ่านได้ว่า ” E-Commerce Breakthrough อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ของทรู ”

ภายในเล่ม Brandageเล่าให้เราฟังถึงการทำ Synergy ของทรู คอร์ป เพื่อให้เกิดสิ่งที่ทรูเรียกว่า ” Convergence “ ที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น และ E-Marketplace ในนาม www.weloveshopping.com ก็เป็นจิ๊กซอว์อีกหนึ่งชิ้นที่ ทรูต้องการปะติดปะต่อให้ Convergence Jigsaws ของตนแน่นยิ่งขึ้น ในเล่มนี้จะเล่าให้เราได้ทราบถึงแต่ละ Service ที่อยู่ใน weloveshopping และการนำมันมาเชื่อมต่อกับ Service ที่มีอยู่แล้วของทรูอย่างเช่น True Money, True Move และอีกหลาย True ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับก้าวต่อไปในโลก Mobile Phone ของ Google มาให้เราอ่านอีกด้วย รวมถึงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค Digital อย่างสถิติการรับรู้สื่อดิจิตอลที่น่าสนใจ อีกด้วยครับ ก็ลองหามาอ่านกันดูครับเพื่อ Update ตัวเอง

Tags: , , , , , , ,

email_marketing_thai_book.gifวันว่างผมมักใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือ เพื่อหาหนังสือใหม่ๆ น่าสนใจมาอ่านประดับความรู้อันน้อยนิดของผม แล้ววันนี้ก็ได้มาอีกเล่ม หลังจากเปิดพลิกไปมาครู่หนึ่งก็ตัดสินใจซื้อซะเลย หนังสือที่ว่าคือ หนังสือ E-mail Marketing : การตลาดด้วยอีเมล์ “ ของสำนักพิมพ์ IM Books เขียนโดย กันต์ฐศิษฎ์ เลิศไพรงาม

เป็นหนังสือที่น่าสนใจดีทีเดียว และน่าจะเป็นเล่มแรกที่เป็นเรื่องของการทำการตลาดด้วย email ล้วนๆ หากใครที่คุ้นเคยกับการทำ Direct Mail หรือ  Database Marketing มาก่อนจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะ Email Marketing คือการทำ Direct Mail แต่เปลี่ยนจากการส่งไปรษณีย์ปกติมาเป็น email ส่วนวิธีการ ขั้นตอนไม่ต่างกันนัก ไม่ว่าจะเป็นการทำ Database Segmentation หรือ คำนวณ RFM Value Analysis (Recency,Frequency และ Monetary) เพื่อส่งให้ถูกกลุ่มลูกค้าต่างๆกันได้ถูกกลุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้ email ต่างจาก direct mail คือความประหยัด วัดผลเป็นตัวเลขได้ดีกว่า เมื่อส่ง EMail ไปแล้วรู้ได้ว่าผู้อ่านเปิดไม่หรือไม่จาก Tracking Script ใน email ขณะที่ ไปรษณีย์ปกติจะวัดผลยากกว่า ลองมาดูว่าภายในบรรจุอะไรไว้บ้างกัน

สารบัญ :

บทที่ 1 พลังอำนาจของอีเมล์
บทที่ 2 แนวความคิดของการตลาดด้วยอีเมล์
บทที่ 3 การวางแผนแคมเปญการตลาดด้วยอีเมล์
บทที่ 4 การใช้อีเมล์หาลูกค้าใหม่
บทที่ 5 การใช้อีเมล์รักษาลูกค้า
บทที่ 6 การสร้างสรรค์อีเมล์โฆษณา
บทที่ 7 การบริหารการตลาดด้วยอีเมล์
บทที่ 8 ความท้าทายและนวัตกรรมของการตลาดด้วยอีเมล์

หนังสือเล่มนี้เป็นปกแข็ง ราคา 799 บาท ซึ่งค่อนข้างสูงแต่ด้วยความหนา 400 กว่าหน้าและเนื้อหาอัดแน่น ก็เป็นเล่มที่น่าสนใจทีเดียว เพราะหนังสือประเภทนี้ไม่ค่อยมีคนไทยเขียน ใครมีทุนรอน และสนใจก็ลองหามาอ่านและทำตามดูครับ

Tags: , , ,

เป็นอีกครั้งที่ บ. Inspire Entertainment เจ้าของหนังสือหัวนอกหลายต่อหลายเล่มเช่น Casaviva, FHM, stuff เป็นต้น ได้นำเข้าหนังสือหัวนอกที่นักธุรกิจต้องรู้จักนั่นคือ หนังสือ BusinessWeek

เป็นเวลากว่า 75 ปีที่ BusinessWeek ฉบับภาษาอังกฤษ ปรากฏต่อสายตานักอ่านที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจหรือระดับผู้บริหาร ปัจจุบัน BusinessWeek ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาท้องถิ่น 8 ภาษา โดยภาษาไทยถือเป็นภาษาที่ 8

Businessweek Thailandผมซื้อ BusinessWeek ไทยแลนด์เล่มแรกนี้มาจากร้านหนังสือซีเอ็ดฯ ที่เลือกซื้อก็เพราะ Cover Story หรือเรื่องเด่นประจำฉบับจั่วไว้ว่า ” พลังหนุ่มสาวแห่งเว็บ – ผู้สร้างธุรกิจจากวัฒนธรรมออนไลน์ ราคาของหนังสือค่อนข้างสูงพอสมควร 175 บาท ครับ

ภายในเล่มจะเน้นไปที่เรื่องของโลกอินเตอร์เน็ต และเรื่องของเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่แต่นำเสนอในมุมมองของธุรกิจ อย่างเรื่องเด่นประจำฉบับ ก็เสนอออกมาในแง่ของการยืมพลังของ Web 2.0 ที่มาใช้เพื่อเสริมแรงทางการตลาด ซึ่งผู้เขียนได้ยก Case Studiesของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแอ็กซ์จากที่ต่างๆ ที่แอ็กซ์ไปบุกตลาดเช่นญี่ปุ่น ฝรั่งเศส มาให้เราได้อ่านกัน

ยังมีเรื่องของการจัดอันดับ 100 อันดับบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำ, ทุกที่ ทุกเวลา..กับอีเบย์, ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักรแอปเปิ้ลที่เผยโมเดลการทำธุรกิจของแอปปเปิ้ลได้อย่างน่าสนใจ ใครสนใจก็ไปหาซื้ออ่านกันครับ

Tags: , ,