จากการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Alexa และ Truehits คงไม่ต้องพูดถึงว่าใครมาอันดับหนึ่ง เพราะทั้งสองเว็บคือ google ไทยและ sanook.com ขึ้นแท่นนัมเบอร์วันอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เราสังเกตุได้จาก truehits คือ การพรุ่งขึ้นมาถึง 7 อันดับของ เว็บ siamsport.co.th จากอันดับ 17 ของสถิติเว็บไซต์ไทยเดือนพค.2553 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 10 ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากบอลโลกที่มาฉุดเอาตอนใกล้สิ้นเดือน

อันดับ Alexa Truehits
1 www.google.co.th www.sanook.com
2 www.facebook.com www.kapook.com
3 www.live.com www.mthai.com
4 www.google.com (+1) www.dek-d.com
5 www.youtube.com (+1) www.teenee.com (+1)
6 www.sanook.com (+1) www.exteen.com (+1)
7 www.hi5.com (-1) www.manager.co.th (-2)
8 www.yahoo.com www.truelife.cm
9 www.blogger.com (+1) www.gmember.com (+2)
10 www.msn.com (+1) www.siamsport.co.th/home.html (+7)
11 www.panthip.com (-2) www.bloggang.com (+3)
12 www.mthai.com www.siamha.com (+1)
13 www.kapook.com (+1) www.playpark.com (-3)
14 www.wikipedia.org www.ohozaa.com (+1)
15 www.4shared.com (+2) www.thairath.co.th (-6)
16 www.dek-d.com (-1) www.siamzone.com (-4)
17 www.manager.co.th (-4) www.weloveshopping.com (+3)
18 www.mediafire.com www.tlcthai.com (+1)
19 www.teenee.com www.meemodel.com (-3)
20 www.exteen.com www.postjung.com (+3)

แหล่งที่มา :

– truehits :   http://truehits.net/script/201006/rank0.php

– Alexa : www.alexa.com/topsites/countries/TH

:)

เมื่อคร้ั้งที่แล้วเราคุยกันเรื่อง เสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog ตอนแรกไป 5 ข้อแล้ว มาว่ากันต่ออีก 4 ข้อกันเลยครับ

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
    ทุกครั้งที่ลูกค้ามีปัญหาเรื่องการใช้งานคอมพิวเตอร์ บริษัท Architel บริษัทผู้ให้บริการด้าน IT Support ที่ผมเคยเล่าไว้่โพสก์ที่แล้ว จะนำปัญหานั้นขึ้นไปโพสก์ฺไว้เป็นโพสก์ใหม่ของ Blog เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปในเว็บไซต์ของ Architel เพื่อให้ลุกค้าได้แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องโทร.เข้ามาหาส่วน IT Support นั่นทำให้บริษัทลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาของลูกค้า และแก้ปัญหาได้รวดเร็ว
  • Blog on a regular basis. เขียนอย่างสม่ำเสมอการเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้่คุณตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจในวงการของคุณ และยังเป็นการรักษาความสม่ำเสมอในการติดต่อกับลูกค้าของคุณผ่านBlog นอกจากนี้ การเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ บนBlog อยู่เสมอเปรียบเสมือนกับการป้อนอาหารให้ Search Engine อย่างสม่ำเสมอ นั่นย่อมส่งผลต่อการขึ้นอันดับสูงๆ ใน Seach Engineอย่างไรก็ดี การติดตาม ตอบคำถามต่อ Comment จากโพสก์เก่า ยังเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะ แม้บางเรื่องในBlog ของคุณผ่านมาระยะแต่ยังมีลูกค้าที่สนใจฝากcomment ไว้ เพราะการตอบปัญหาลูกค้านั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคุณที่มีต่อลูกค้า
  • ไม่เขียน Blog เมื่อไหร่
    เมื่อคุณไม่มีเวลาเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอน่ะซิครับ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เขียนโพสก์ใหม่เลย แต่การกำหนดความถี่ในเขียนเป็นสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง เพื่ออัพเดทข้อมูลให้ลูกค้าของคุณทราบบ้างน่าจะเป็นการสมควรในการติดต่อลูกค้าผ่าน Blog เป็นระยะๆ หรือในกรณีที่ลูกค้าของคุณนิยมข่าวแบบ Word-Of-Mouth หรือประเภทเมาส์กันสนั่นเมืองและก็ไม่ค่อยสนคอมฯด้วย ความถี่ในการเขียน Blog ก็อาจลดลงไปโดยปริยาย
  • เครื่องมือสร้าง Blog พร้อมด้วยระบบ E-Commerce
    จะหาได้่ที่ไหนกันล่ะ ? ตอบยากครับ เพราะยังไม่เห็น Blogging Software ตัวไหนที่จะมีระบบ Shopping Cart หรือ ระบบE-Commerceเต็มรูปแบบ

ถึงตรงนี้ได้ข้อคิดที่น่าสนใจ ก็ลองนำข้อคิดในการใช้ Blog กับธุรกิจของคุณดูครับ
แหล่งที่มา : http://help.cnet.com/Internet_Access/9602-12576_39-0.html?messageID=2509533&tag=tip-2509533&kw=Internet+Access&nodeId=6536

[tags]blog,business blog, blog marketing,e-commerce,search engine[/tags

blog_connect1.jpgไม่ขอมากความครับ เข้าเรื่องเลย ต่อไปนี้เป็นวิธีเชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog โดยนาย Doug Varga ที่ไปอ่านเจอใน cnet.com มาดูดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

  1. มีเว็บไซต์แล้ว ก็เสริมด้วย Blog ซิ
    นอกเหนือไปจากการบอกกล่าวกับลูกค้าของคุณว่า คุณมีสินค้าใหม่อะไรบ้าง หรือเปิดร้านใหม่ที่ไหนยังไง ในหน้าสินค้าอย่างที่เคยเป็นมา เรายังสามารถใช้ Blog นี่แหละเป็นช่องทางในการบอกกล่าวได้อีก แถมยังดูเป็นมิตรมากกว่าที่จะ hardsell แบบโท่งๆ ในหน้า Products นอกจากนี้ ความเห็นจากผู้อ่าน Blog ยังนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการของเราอีกด้วยครับ
  2. องค์กรไม่มีเว็บ ก็ใช้เครื่องมือสร้าง Blog ทำเว็บไซต์
    บริษัท Architel ผู้ให้บริการด้าน IT หรือ IT Outsourcing สร้างเว็บไซต์ของบริษัททั้งไซต์ด้วย WordPress โดยแบ่งออกเป็นส่วนของหน้าเว็บไซต์บริษัท ส่วนของ News และส่วน Blog ของ CEO คุณ Alexander Muse ประธานบริหารของบริษัทกล่าวว่า การใช้ Blogging Software จะช่วยให้เว็บไซต์ เป็นมิตรกับ Search Engine ได้ดีกว่าการใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่างของ Macromedia แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ต้องพึ่งพา Designer ในการออกแบบ แต่ Designer จะความจำเป็นในขั้นตอนที่จะต้องออกแบบเว็บ เมื่อเว็บไซต์ได้เผยแพร่แล้ว เราจะคุยกับ Designer อีกครั้งเมื่อต้องการเปลี่ยน Design ของเว็บไซต์
  3. หาเงินเข้า Blog
    Affiliate campaigns เช่น Amazon Associates หรือ Google Adsense คืิอทางเลือกหนึ่งในการหาเงินเข้า Blog ครับ ไม่จำเป็นต้องรอให้จำนวนคนเข้าเยอะ ๆ หรอกครับ ทำไป แล้วค่อยๆปรับปรุงวิธีการหาเงินผ่าน Affiliate แต่คงต้องเลือกให้เหมาะสมครับ เพราะอาจจะทำให้่ดูเป็นการทำการค้ามากไปจนกลายเป็นการหาเงินผ่าน Affiliate แทนการขายของของตัวเอง
  4. นำเนื้อหาสำคัญอยากเผยแพร่ไว้หน้าแรก
    ลักษณะสำคัญอันหนึ่งของ Blog คือ โพสก์ล่าสุดจะถูกนำเสนอในหน้าแรกของ Blog นั่นคือโอกาสที่คุณจะได้นำเสนอเนื้อหาที่คุณอยากโปรโมท หากคุณบอกผู้เยี่ยมชมว่าสินค้าเก่าดีกว่าสินค้าใหม่ในท้องตลาดอย่างไร คุณก็เขียนเป็นโพสก์เพื่อให้มันอยู่หน้าแรกซะ และทิ้งมันไว้ระยะหนึ่งก่อนจะเขียนโพสก์ใหม่ หรือหากยังไม่ต้องการทิ้งประเด็นที่ต้องการบอกกล่าว แต่ก็ยังคงต้องรักษาความต่อเนื่องในการอัพเดทข่าวสารใหม่ ๆ คุณก็ทำ Link ไปยังโพสก์ที่ว่านั่น เพื่อไม่ให้ประเด็นตกลงไป
  5. เครื่องมือฟรีที่ไม่อาจมองข้าม
    Blogger.com หรือ WordPress เป็นเครื่องมือฟรีๆที่ใช้ในการสร้างบล็อกอย่างทรงอานุภาพ ถึงคุณจะมีความรู้ด้านการสร้างเว็บไซต์ไม่มากนัก แต่เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยคุณอย่างมากในการจัดการสร้างและจัดการบล็อกของคุณได้ในระดับหนึ่ง ประหยัดเวลาในการเขียนระบบบริหารบล็อกขึ้นมาเอง และยังมีเครื่องมือที่จำเป็นในการจัดการกับบล็อกได้ดีพอสมควร

โพสก์หน้ามาต่อกันครับ

Tags: , , , , ,

:)

ได้รับคำถามจากคนอ่าน www.thinkandclick.com ท่านหนึ่ง เขียนมาขอคำปรึกษาจากผมว่าสนใจที่จะทำ email marketing campaign และวิธีการเก็บข้อมูลเพื่อทำ CRM เห็นว่าน่าสนใจดี ลงคำตอบมาให้อ่านกัน ส่วนผู้อ่านท่านนั้นเป็นใครที่ไหน อันนี้ขอไม่เปิดเผยนะครับ

===========================================================

เรียน คุณ………

1. ประการแรก ในการเก็บฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในคือ เราต้องการเก็บฐานข้อมูลเพื่อจุดประสงค์อะไรบ้าง คือ ต้องวางแผนว่าจะเอาไปทำอะไร เพราะถ้าไม่วางแผนให้ดี ข้อมูลที่เราเก็บมาก็อาจจะมี Field มากเกินความจำเป็น หรือน้อยกว่าความต้องการ

เช่นหากเราต้องการทำเพื่อทำ Email Marketing Campaigns โดยเราคิดว่าแค่เก็บเพียงชื่อ,นามสกุล, email address ก็พอแล้ว แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งเราต้องการจัดกลุ่มลูกค้า เพื่อให้การส่ง Email ถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ผู้ดูแล Campaign สิ่งที่เราเพิ่มภายหลังอย่างเช่นเพศ อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรฯ กลับกลายเป็นความจำเป็นในเวลาต่อมา ในการเพิ่ม Field ใน CRM Application หรือ Database Application เป็นเรื่องง่ายมาก

แต่การเก็บหรือขอข้อมูลย้อนหลังกับกลุ่มลูกค้า เป็นเรื่องยากมากบางครั้งฝ่ายการตลาดหรือผู้ดูแลการ Email Marketing Campaign อาจจะต้องคิดหาหนทางในเชิงการตลาดเพิ่มเติมเช่นส่ง Email ไปถึงลูกค้าในฐานข้อมูลที่มีอยู่เพื่อขอข้อมูลที่ต้องการเพิ่มเติมโดยมีของขวัญเป็นการตอบแทน แต่สิ่งที่ต้องเสียไปคือ เงินทุนที่ต้องทำ Campaign เพิ่มเติมที่กล่าวถึงนั่นเอง ในความคิดผม ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องมีคือคำนำหน้าชื่อ(นาย นาง พลตรีฯ), ชื่อ-สกุล+ชื่อกลาง ที่อยู่แบบแยก Field ไปเลยคือเป็นบ้านเลขที่/ อาคารฯ/ ถนน/…. , โทร.ทั้งมือถือและที่ติดต่อสะดวก, email, วันเดือนปีเกิด ส่วน Field อื่นๆ ก็ต้องแล้วแต่จุดประสงค์ครับ

ที่คุณ…..บอกว่าเพื่อที่จะทำ CRM กับลูกค้า ผมคิดว่า Field ที่จำเป็นมีมากกว่านั้นแต่ก็ อีกนั่นแหละครับ ก็ต้องขึ้นกับเป้าหมาย เช่นลูกค้า โรงแรมชั้นหนึ่งจะมีการเก็บข้อมูลที่นอกเหนือจาก Field พื้นฐาน เช่น ลูกค้าคนนั้นเข้ามาพักกี่ครั้ง พักแต่ละวันนานแค่ไหน ชอบทานอะไร ชอบห้องแบบไหน ที่จอดรถประจำหรือที่ชอบภายในโรงแรมอยู่ตรงไหน ฯลฯ เรียกได้ว่าถ้าลูกค้าคนสำคัญมา ลูกค้าไม่ต้องบอกเลยว่าต้องการอะไร ในฐานข้อมูลมีให้หมด ซึ่งนำไปสู่การบริการที่เยี่ยมยอดในสายตาลูกค้าครับ นั่นคือเป้าหมายสำคัญของ Customer Relationship Management

2. ประการที่สอง เรื่อง Application ในการทำ Email Marketing ปัจจุบันมีมากมายหลายตัว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้ Email Marketing Module ทีต้องการใช้ มีการ Integrate กับ Application หรือ Database ของที่ทำงานหรือไม่ แต่ถ้าหากที่ Office ใช้ พวก Oracle ก็ลองซื้อของ Seibel Oracle EMail Marketing (http://www.oracle.com/applications/email/index.html) มาใช้ดูเพราะมี Feature ของการวัดผลการทำ Campaign มาให้ด้วยเช่นวัด Response หรือ Open Rate ของ email ว่ามีผู้เปิดอ่าน email มากแค่ไหน สามารถวัด Conversion Rate ว่าเมื่อเปิดอ่านแล้วคลิ๊กไปที่หน้าเว็บที่กำหนดมากแค่ไหน หรือหากใช้ SQL ก็ลองซื้อ Microsoft CRM (http://www.microsoft.com/dynamics/crm/default.mspx)มาใช้ดูครับ รู้สึกว่าจะมีการวัดผลแบบนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่คำนึงถึงคือเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง บางตัวตกเป็นหลักแสน/ล้าน หากต้องการ Feature ครบๆ

แต่หากไม่ต้องการ Integrate กับฐานข้อมูลในองค์กร ก็ลองสมัครใช้ Email Marketing Service ที่ใช้ผ่าน website ดูครับมีหลายรายที่น่าใช้ เพียงเรามีฐานข้อมูลที่ export มาในรูป txt หรือ csv ก็สามารถ Import เข้าไปที่เว็บและทำการยิง email ได้ทั้งยังสามารถ Select กลุ่มได้หากเรากำหนดกลุ่ม(segmentation) เพื่อการส่งเอาไว้ นอกจากนี้ยังมี email template ให้เพื่อที่เราไม่ต้องไป Design เอง ราคาก็ไม่แพงมาก เริ่มต้นกันตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน จนถึง หลักหมื่น ขึ้นอยู่กับจำนวน emailของเรา แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่อง Security เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเว็บจะเอาไปทำอะไรบ้าง ฉะนั้น คงต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้ ใช้ภาษาที่ต้องการได้ เพราะบางแห่งไม่ Coding เป็น UTF-8 ทำให้ส่งภาษาไทยไปแล้วผู้รับอาจจะอ่านไม่ได้

สำหรับรายที่แนะนำหรือที่ผมเคยใช้เช่น www.constantcontact.com มีคนใช้เยอะ ไว้ใจได้, www.aweber.com , www.exacttarget.com (ยี่ห้อนี้เพื่อนฝรั่งของผมแนะนำมา)อันนี้คนที่ผมรู้จักหลายคนก็ใช้  ส่วนไทยก็มี www.wisetarget.com ครับ

===========================================================

สำหรับเพื่อนๆผู้อ่านที่มีไอเดียในเรื่อง email marketing แบบไม่ spam มากกว่านี้ ขอเชิญมาแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน หรือส่ง link มา ผมจะตามไปอ่านครับผม

Tags: , , , , , ,

วันนี้ได้ไปดู Movie Preview ที่ Truevision จัดให้สมาชิกเข้าชมเรื่อง Fantastic Four : Rise of the silver Surfer ที่โรงหนัง SF Cinema สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว สิ่งที่ทำให้ผมเซ็งสุดๆคือ มาตรการฝากมือถือก่อนเข้าชม ทีแรกก็เข้าใจว่า จะเป็นแบบนี้เพียงโรงเดียว เพราะเป็นรอบก่อนฉายจริง แต่หลังจากแอบด้อมๆ มองๆ ก็พบว่า เป็นกันทุกโรงใน SF

เหตุผลที่ทางโรงหนังต้องทำอย่างนั้น ก็เพราะเคยเกิดกรณีของ Pirate of the Caribbean 3 ที่มีคนดูพฤติกรรมน่ารังเกียจแอบใช้มือถือติดกล้องถ่ายหนังออกมา ซึ่งผมไม่แน่ใจนักว่าจะมีมากน้อย แต่สันนิฐานเอาว่าคงมีไม่มาก

อย่างไรก็ตาม การกระทำเพียงกลุ่มคนเพียงหยิบมือกลับทำให้เกิดการรุกล้ำสิทธิในการชมภาพยนตร์ของคนส่วนใหญ่mujต้องจำยอมรับการมาตรการแบบจนปัญญาของคนฉายหนังอย่าง SF และถ้าผมซื้อตั๋วเข้าไปชม แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผมขอคืนตั๋ว อะไรเกิดขึ้นครับ ผมก็จะเลิกดูซิครับ และโรงหนังก็เสียลูกค้าประจำไปอีกหนึ่งคน ซึ่งปกติผมก็ดูที่ SF อยู่แล้วอย่างน้อยก็เดือนละ 3-4 ครั้ง ไม่ว่าจะอยู่สาขาใดที่ใกล้และผมสะดวกไป (ผมเองก็ไม่ค่อยชอบโรงหนังเจ้าใหญ่อีกเจ้าเท่าไหร่นักหรอก)

ยังมีวิธีอีกมากมายที่จะแก้ปัญหาข้อนี้ แต่คงต้องลองใจเจ้าของโรงหนังว่าจะมีปัญญามากกว่านี้หรือปล่าว หรือจะให้ผมและคนดูหนังโรงอีกหลายท่าน ดูแต่หนังแผ่นจากนี้ไป

Tags: , , , ,

แต่ในที่สุด ผมก็ไม่ฝากซะอย่าง ผมมาดูหนังไม่ได้มาเป็นนักโทษนะครับ ผมบอกกับพนง ที่บอกให้ฝากมือถือไปประโยคเดียวว่า  ” ไม่ฝาก ! ” จากนั้นก็เดินเข้าโรงไปหน้าตาเฉย เวลาผมทำหน้าตาเฉย ขอบอกว่าหน้าดุมาก ตัวเองยังกลัวเรรรยยยยย