ได้รับ Forwarded email จากเด็กๆในออฟฟิศ อ่านเล้วให้รู้สึกทุก ๆ วันนี้ เราทำ คิด อะไร ๆ แบบเดิมอยู่หรือปล่าว ถ้ายังคิด ทำ แบบที่เป็นมา ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ สะกิดใจดี

—————————————————————————— 

เคยได้ยินชื่อ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ไหมครับ??
เขาเคยเป็นวิศวกรขององค์การอวกาศนาซา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน
เคยได้รับรางวัลงานวิจัยที่ดีที่สุดระดับโลกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไอพ่น ตัดสินใจกลับเมืองไทยเพราะ

  1. อยากดูแลพ่อแม่
  2. ไม่อยากเป็นพลเมืองชั้นสองในบ้านพักคนชรา
  3. อยากเที่ยว และ
  4. ชอบกินอาหารอร่อย

เคยเป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะออกมาตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง
ผมประทับใจบทสัมภาษณ์ของ ดร.วรภัทรใน “เสาร์สวัสดี” ของ “กรุงเทพธุรกิจ ” เมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อนมาก

คนอะไรก็ไม่รู้ ชีวิตมันส์เป็นบ้า ความคิดก็กวนเหลือหลาย ตอนที่เขาเป็นอาจารย์ วิธีการสอนหนังสือของเขาแปลกกว่าคนอื่น

“ผมออกนอกกรอบตลอดเวลา” เขาบอก

เขาเคยพาเด็กวิศวะไปที่ริมสระว่ายน้ำ เรียนไปและดูนิสิตสาว ๆ ว่ายน้ำไปด้วย คาดว่าคงไปเรียนเรื่อง “คลื่น”
ระหว่างท่าฟรีสไตล์ กับท่าผีเสื้อ คลื่นที่เกิดขึ้นของท่าไหนถี่กว่ากัน ระหว่างชุดทูพีซกับวันพีซ แรงเสียดทานกับน้ำ ชุดไหนมากกว่ากัน

แนวการศึกษาน่าจะออกไปทำนองนี้ แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนที่เขาออกข้อสอบ ข้อสอบของเขาสั้นและกระชับมาก

“จงออกข้อสอบเอง พร้อมเฉลย” โหย…เด็กวิดวะอึ้งกันทั้งห้อง คำตอบส่วนใหญ่เป็นการตั้งโจทย์แบบง่ายๆ เช่น ปั้นจั่นมีกี่ชนิด

ผลปรากฎว่า ได้ศูนย์กันทั้งห้อง เพราะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงความคิดที่ลึกซึ้งสมกับที่เรียนมาทั้งเทอม

เหตุผลที่ ดร.วรภัทรออกข้อสอบด้วยการให้นิสิตออกข้อสอบเองเป็นเหตุผลที่ตรงกับใจผมมาก

“ชีวิตคนเราจะรอให้อาจารย์ตั้งโจทย์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาโจทย์มาเอง คิดแล้วทำ ถ้าผิดแล้วอาจารย์จะปรับให้”

เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่ติดนิสัยเด็กกวดวิชา รอคนคาบทุกอย่างมาป้อนให้ไม่รู้จักคิดเอง

“ถ้ารอและตั้งรับ คุณก็เป็นพวกอีแร้ง แต่พวกคุณแย่กว่าเพราะเป็นแค่ลูกอีแร้ง คือ รออาหารที่คนอื่นป้อนให้”

โหย…เจ็บ ผมเชื่อมานานแล้วว่าชีวิตของคนเราเป็นข้อสอบอัตนัยที่ต้องตั้งโจทย์เองและตอบเอง
ไม่ใช่ข้อสอบปรนัยที่มีคนตั้งโจทย์ และมีคำตอบเป็นทางเลือก ก-ข-ค-ง ถ้าใครที่คุ้นกับ “ชีวิตปรนัย” ที่มีคนตั้งโจทย์ให้และเสนอทางเลือก
1-2-3-4 คนคนนั้นชีวิตจะไม่ก้าวหน้า เพราะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลาติดกับ “กรอบ”ที่คนอื่นสร้างให้
ไม่เหมือนกับคนที่รู้จักคิดและตั้งคำถามเอง

เรื่องการตั้งคำถามกับชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าลืมว่าเพราะมี “คำถาม” จึงมี “คำตอบ”
เมื่อมี “คำตอบ” เราจึงเลือกเดิน พูดถึงเรื่องการตั้งคำถามผมนึกถึง”โสเครติส” เขาเป็นนักปรัชญาเอกของโลก
ที่สอนลูกศิษย์ด้วยการสนทนา ตั้งคำถามให้ลูกศิษย์ตอบ สร้างองค์ความรู้จาก “คำถาม”
กลยุทธ์ของ “โสเครติส” ในการสอนคือไม่ให้ความเห็นใดๆ แก่นักเรียน และทำลายความมั่นใจของ นักเรียนที่เชื่อว่าตนเองรู้

“โสเครติส” เชื่อว่าเมื่อเด็กตระหนักใน “ความไม่รู้” ของตนเองเขาจะเริ่มต้นแสวงหา “ความรู้ ”
แต่ถ้าเด็กยังเชื่อมั่นว่าตนเองมี “ความรู้” เขาก็จะไม่แสวงหา “ความรู้ “

การตั้งคำถามของโสเครติสจึงมีเป้าหมายโจมตีและทำลายความเชื่อมั่นในภูมิความรู้ของนักเรียน
เป็นกลยุทธ์เท “น้ำ” ให้หมดจากแก้ว เมื่อแก้วไม่มีน้ำแล้ว จึงเริ่มให้เขาเท “น้ำ” ใหม่ใส่แก้วด้วยมือของเขาเอง
“น้ำ” ที่ลูกศิษย์แต่ละคนเทลงแก้วด้วยมือตัวเองมาจาก “คำตอบ”ที่เขาค้นคิดขึ้นมาเอง
“คำตอบ” จาก “คำถาม” ของ “โสเครติส”
“โสเครติส” นิยามศัพท์คำว่า “คนฉลาด” และ “คนโง่” ได้อย่างน่าสนใจ

“คนฉลาด” ในมุมมองของ “โสเครติส” นั้นไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง
แต่ “คนฉลาด” คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้
ส่วน “คนโง่” นั้น คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ แต่ทำตัวราวกับเป็นผู้รู้

 

Tags: ,,,,

3 Thoughts on “ไร้กรอบ

  1. ?????????? ?????????????????????????????

  2. ?????????????????? ???????????? ????????? ???????????????????? ?????????????????

  3. Pingback: ?????? ??? ????? at badzboy

Leave a Reply

Post Navigation