เมื่อคร้ั้งที่แล้วเราคุยกันเรื่อง เสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog ตอนแรกไป 5 ข้อแล้ว มาว่ากันต่ออีก 4 ข้อกันเลยครับ

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
    ทุกครั้งที่ลูกค้ามีปัญหาเรื่องการใช้งานคอมพิวเตอร์ บริษัท Architel บริษัทผู้ให้บริการด้าน IT Support ที่ผมเคยเล่าไว้่โพสก์ที่แล้ว จะนำปัญหานั้นขึ้นไปโพสก์ฺไว้เป็นโพสก์ใหม่ของ Blog เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปในเว็บไซต์ของ Architel เพื่อให้ลุกค้าได้แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องโทร.เข้ามาหาส่วน IT Support นั่นทำให้บริษัทลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาของลูกค้า และแก้ปัญหาได้รวดเร็ว
  • Blog on a regular basis. เขียนอย่างสม่ำเสมอการเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้่คุณตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจในวงการของคุณ และยังเป็นการรักษาความสม่ำเสมอในการติดต่อกับลูกค้าของคุณผ่านBlog นอกจากนี้ การเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ บนBlog อยู่เสมอเปรียบเสมือนกับการป้อนอาหารให้ Search Engine อย่างสม่ำเสมอ นั่นย่อมส่งผลต่อการขึ้นอันดับสูงๆ ใน Seach Engineอย่างไรก็ดี การติดตาม ตอบคำถามต่อ Comment จากโพสก์เก่า ยังเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะ แม้บางเรื่องในBlog ของคุณผ่านมาระยะแต่ยังมีลูกค้าที่สนใจฝากcomment ไว้ เพราะการตอบปัญหาลูกค้านั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคุณที่มีต่อลูกค้า
  • ไม่เขียน Blog เมื่อไหร่
    เมื่อคุณไม่มีเวลาเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอน่ะซิครับ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เขียนโพสก์ใหม่เลย แต่การกำหนดความถี่ในเขียนเป็นสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง เพื่ออัพเดทข้อมูลให้ลูกค้าของคุณทราบบ้างน่าจะเป็นการสมควรในการติดต่อลูกค้าผ่าน Blog เป็นระยะๆ หรือในกรณีที่ลูกค้าของคุณนิยมข่าวแบบ Word-Of-Mouth หรือประเภทเมาส์กันสนั่นเมืองและก็ไม่ค่อยสนคอมฯด้วย ความถี่ในการเขียน Blog ก็อาจลดลงไปโดยปริยาย
  • เครื่องมือสร้าง Blog พร้อมด้วยระบบ E-Commerce
    จะหาได้่ที่ไหนกันล่ะ ? ตอบยากครับ เพราะยังไม่เห็น Blogging Software ตัวไหนที่จะมีระบบ Shopping Cart หรือ ระบบE-Commerceเต็มรูปแบบ

ถึงตรงนี้ได้ข้อคิดที่น่าสนใจ ก็ลองนำข้อคิดในการใช้ Blog กับธุรกิจของคุณดูครับ
แหล่งที่มา : http://help.cnet.com/Internet_Access/9602-12576_39-0.html?messageID=2509533&tag=tip-2509533&kw=Internet+Access&nodeId=6536

[tags]blog,business blog, blog marketing,e-commerce,search engine[/tags

brandage-ecommerce.pngเมื่อวานเพิ่งแนะนำหนังสือน่าสนใจราคาแพงไป วันนี้ก็ขอแนะนำหนังสืออีกเล่มสำหรับคนทำ E-Commerce เพื่อเป็นกรณีศึกษาครับ จากที่จั่วหัวไว้ หนังสือที่ว่าคือแมกกาซีนเชิงการตลาดที่ชื่อ Brandage เป็นแมกกาซีนด้านการตลาดที่ผมอ่านเป็นประจำตั้งแต่ออกมาเล่มแรกเมื่อประมาณ7 – 8 ปีที่แล้ว และผมเองก็เป็นสมาชิก Brandage มากว่า 7 ปีแล้ว (Brandage เคยมาสัมภาษณ์ผมเรื่อง E-Commerce ในสมัยที่ E-commerce เพิ่งเข้ามาเมืองไทยใหม่ ด้วยนะครับ จะบอกให้  แต่เล่มไหน สงสัยต้องไปค้นมาดูแล้ว เหอ เหอ เหอ … )

Brandage เป็นแมกฯที่ให้ข้อมูลความรู้เชิงการตลาดโดยเฉพาะเรื่อง Branding และ Brand Strategy กลุ่มคนทำงานของหนังสือ Brandage เป็นกลุ่มคนที่คร่ำหวอดในวงการหนังสือและแมกฯเชิงการตลาดมานาน ที่ผมหยิบเล่มล่าสุด Brandage ปีที่ 8 ฉ. 12 มาคุยเพราะ คำโปรย บนปกอ่านได้ว่า ” E-Commerce Breakthrough อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ของทรู ”

ภายในเล่ม Brandageเล่าให้เราฟังถึงการทำ Synergy ของทรู คอร์ป เพื่อให้เกิดสิ่งที่ทรูเรียกว่า ” Convergence “ ที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น และ E-Marketplace ในนาม www.weloveshopping.com ก็เป็นจิ๊กซอว์อีกหนึ่งชิ้นที่ ทรูต้องการปะติดปะต่อให้ Convergence Jigsaws ของตนแน่นยิ่งขึ้น ในเล่มนี้จะเล่าให้เราได้ทราบถึงแต่ละ Service ที่อยู่ใน weloveshopping และการนำมันมาเชื่อมต่อกับ Service ที่มีอยู่แล้วของทรูอย่างเช่น True Money, True Move และอีกหลาย True ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกี่ยวกับก้าวต่อไปในโลก Mobile Phone ของ Google มาให้เราอ่านอีกด้วย รวมถึงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค Digital อย่างสถิติการรับรู้สื่อดิจิตอลที่น่าสนใจ อีกด้วยครับ ก็ลองหามาอ่านกันดูครับเพื่อ Update ตัวเอง

Tags: , , , , , , ,