เป็นปี ที่ไม่ได้ Up Blog ครับ ก็อย่างว่า มีงานเข้ามามากขึ้น ก็ละเลยการ Update maximumboy.com ซะนี่ ผลคือ Pagerank หล่นลงมาเหลือ แค่ 2/10 จากเดิม 3/10

แม้ปัจจุบัน PR จะกลายเป็นเพียง Factor เล็กๆในการขึ้นอันดับ(แต่ก็ยังสำคัญอยู่เด้อ..) ก็อดใจหายไม่ได้ว่ามันหล่นลงจากเดิม เพราะกว่าที่จะขึ้นไปแต่ละ level ไม่เรื่องง่ายๆ นี่แหละผลของการไม่ได้ Up Blog เป็นประจำ… เหอ เหอ…

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… อยากเด่นอยากดังต้อง Up BLog เป็นประจำ…..

Tags: , ,

เมื่อคร้ั้งที่แล้วเราคุยกันเรื่อง เสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog ตอนแรกไป 5 ข้อแล้ว มาว่ากันต่ออีก 4 ข้อกันเลยครับ

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
    ทุกครั้งที่ลูกค้ามีปัญหาเรื่องการใช้งานคอมพิวเตอร์ บริษัท Architel บริษัทผู้ให้บริการด้าน IT Support ที่ผมเคยเล่าไว้่โพสก์ที่แล้ว จะนำปัญหานั้นขึ้นไปโพสก์ฺไว้เป็นโพสก์ใหม่ของ Blog เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปในเว็บไซต์ของ Architel เพื่อให้ลุกค้าได้แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องโทร.เข้ามาหาส่วน IT Support นั่นทำให้บริษัทลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหาของลูกค้า และแก้ปัญหาได้รวดเร็ว
  • Blog on a regular basis. เขียนอย่างสม่ำเสมอการเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้่คุณตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจในวงการของคุณ และยังเป็นการรักษาความสม่ำเสมอในการติดต่อกับลูกค้าของคุณผ่านBlog นอกจากนี้ การเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ บนBlog อยู่เสมอเปรียบเสมือนกับการป้อนอาหารให้ Search Engine อย่างสม่ำเสมอ นั่นย่อมส่งผลต่อการขึ้นอันดับสูงๆ ใน Seach Engineอย่างไรก็ดี การติดตาม ตอบคำถามต่อ Comment จากโพสก์เก่า ยังเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะ แม้บางเรื่องในBlog ของคุณผ่านมาระยะแต่ยังมีลูกค้าที่สนใจฝากcomment ไว้ เพราะการตอบปัญหาลูกค้านั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของคุณที่มีต่อลูกค้า
  • ไม่เขียน Blog เมื่อไหร่
    เมื่อคุณไม่มีเวลาเขียน Blog อย่างสม่ำเสมอน่ะซิครับ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เขียนโพสก์ใหม่เลย แต่การกำหนดความถี่ในเขียนเป็นสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง เพื่ออัพเดทข้อมูลให้ลูกค้าของคุณทราบบ้างน่าจะเป็นการสมควรในการติดต่อลูกค้าผ่าน Blog เป็นระยะๆ หรือในกรณีที่ลูกค้าของคุณนิยมข่าวแบบ Word-Of-Mouth หรือประเภทเมาส์กันสนั่นเมืองและก็ไม่ค่อยสนคอมฯด้วย ความถี่ในการเขียน Blog ก็อาจลดลงไปโดยปริยาย
  • เครื่องมือสร้าง Blog พร้อมด้วยระบบ E-Commerce
    จะหาได้่ที่ไหนกันล่ะ ? ตอบยากครับ เพราะยังไม่เห็น Blogging Software ตัวไหนที่จะมีระบบ Shopping Cart หรือ ระบบE-Commerceเต็มรูปแบบ

ถึงตรงนี้ได้ข้อคิดที่น่าสนใจ ก็ลองนำข้อคิดในการใช้ Blog กับธุรกิจของคุณดูครับ
แหล่งที่มา : http://help.cnet.com/Internet_Access/9602-12576_39-0.html?messageID=2509533&tag=tip-2509533&kw=Internet+Access&nodeId=6536

[tags]blog,business blog, blog marketing,e-commerce,search engine[/tags

blog_connect1.jpgไม่ขอมากความครับ เข้าเรื่องเลย ต่อไปนี้เป็นวิธีเชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย Blog โดยนาย Doug Varga ที่ไปอ่านเจอใน cnet.com มาดูดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

  1. มีเว็บไซต์แล้ว ก็เสริมด้วย Blog ซิ
    นอกเหนือไปจากการบอกกล่าวกับลูกค้าของคุณว่า คุณมีสินค้าใหม่อะไรบ้าง หรือเปิดร้านใหม่ที่ไหนยังไง ในหน้าสินค้าอย่างที่เคยเป็นมา เรายังสามารถใช้ Blog นี่แหละเป็นช่องทางในการบอกกล่าวได้อีก แถมยังดูเป็นมิตรมากกว่าที่จะ hardsell แบบโท่งๆ ในหน้า Products นอกจากนี้ ความเห็นจากผู้อ่าน Blog ยังนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการของเราอีกด้วยครับ
  2. องค์กรไม่มีเว็บ ก็ใช้เครื่องมือสร้าง Blog ทำเว็บไซต์
    บริษัท Architel ผู้ให้บริการด้าน IT หรือ IT Outsourcing สร้างเว็บไซต์ของบริษัททั้งไซต์ด้วย WordPress โดยแบ่งออกเป็นส่วนของหน้าเว็บไซต์บริษัท ส่วนของ News และส่วน Blog ของ CEO คุณ Alexander Muse ประธานบริหารของบริษัทกล่าวว่า การใช้ Blogging Software จะช่วยให้เว็บไซต์ เป็นมิตรกับ Search Engine ได้ดีกว่าการใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่างของ Macromedia แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ต้องพึ่งพา Designer ในการออกแบบ แต่ Designer จะความจำเป็นในขั้นตอนที่จะต้องออกแบบเว็บ เมื่อเว็บไซต์ได้เผยแพร่แล้ว เราจะคุยกับ Designer อีกครั้งเมื่อต้องการเปลี่ยน Design ของเว็บไซต์
  3. หาเงินเข้า Blog
    Affiliate campaigns เช่น Amazon Associates หรือ Google Adsense คืิอทางเลือกหนึ่งในการหาเงินเข้า Blog ครับ ไม่จำเป็นต้องรอให้จำนวนคนเข้าเยอะ ๆ หรอกครับ ทำไป แล้วค่อยๆปรับปรุงวิธีการหาเงินผ่าน Affiliate แต่คงต้องเลือกให้เหมาะสมครับ เพราะอาจจะทำให้่ดูเป็นการทำการค้ามากไปจนกลายเป็นการหาเงินผ่าน Affiliate แทนการขายของของตัวเอง
  4. นำเนื้อหาสำคัญอยากเผยแพร่ไว้หน้าแรก
    ลักษณะสำคัญอันหนึ่งของ Blog คือ โพสก์ล่าสุดจะถูกนำเสนอในหน้าแรกของ Blog นั่นคือโอกาสที่คุณจะได้นำเสนอเนื้อหาที่คุณอยากโปรโมท หากคุณบอกผู้เยี่ยมชมว่าสินค้าเก่าดีกว่าสินค้าใหม่ในท้องตลาดอย่างไร คุณก็เขียนเป็นโพสก์เพื่อให้มันอยู่หน้าแรกซะ และทิ้งมันไว้ระยะหนึ่งก่อนจะเขียนโพสก์ใหม่ หรือหากยังไม่ต้องการทิ้งประเด็นที่ต้องการบอกกล่าว แต่ก็ยังคงต้องรักษาความต่อเนื่องในการอัพเดทข่าวสารใหม่ ๆ คุณก็ทำ Link ไปยังโพสก์ที่ว่านั่น เพื่อไม่ให้ประเด็นตกลงไป
  5. เครื่องมือฟรีที่ไม่อาจมองข้าม
    Blogger.com หรือ WordPress เป็นเครื่องมือฟรีๆที่ใช้ในการสร้างบล็อกอย่างทรงอานุภาพ ถึงคุณจะมีความรู้ด้านการสร้างเว็บไซต์ไม่มากนัก แต่เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยคุณอย่างมากในการจัดการสร้างและจัดการบล็อกของคุณได้ในระดับหนึ่ง ประหยัดเวลาในการเขียนระบบบริหารบล็อกขึ้นมาเอง และยังมีเครื่องมือที่จำเป็นในการจัดการกับบล็อกได้ดีพอสมควร

โพสก์หน้ามาต่อกันครับ

Tags: , , , , ,

:)

Keng.com เค้าเชิญชวนคนอ่านบล็อก ร่วมกันตอบแบบสอบถาม Thailand Blog Reader Survey 2008 เพื่อสำรวจ พฤติกรรม ผู้อ่านบล็อกที่เป็นคนไทยครับ ลองเข้าไปช่วยกันตอบเพื่อพัฒนาวงการบล็อกของไทย

wordpress_optimization_book.jpgเพิ่งเที่ยวกลับมานะแหล่ะ ทานข้าวเย็นที่ Hot Pot เมเจอร์ปิ่นเกล้ากับน้องๆที่Office พอ 3 ทุ่มกว่าก็ไปต่อกับเพื่อนๆอีกกลุ่มที่อีกฟากของกรุงเทพ ที่วงษ์สว่างโน้นแน่ะ ดื่มไปเล็กน้อย ปกติผมไม่ค่อยดื่มแอลฯ เท่าไหร่เวลาไปเที่ยวเพราะต้องขับรถ ไม่ค่อยอยากดื่ม เพราะถ้าดื่มจะไม่ค่อยหยุด พอเที่ยงคืนก็กลับมาบ้านพระราม 3  ถึงก็ราวๆ ตีหนึ่ง แต่ไม่ง่วงเท่าไหร่ นึกขึ้นมาได้ว่าจะ Review หนังสือ Blog ทั้งสองเล่มของนายเดย์แห่ง idayblog.com มาตั้งหลายวันแล้ว ก็ถือโอกาสยังไม่ง่วงก็เขียนซะเลย ถึงแม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ขอหยิบความคิดเห็นมาแบ ฟัง

ผมอ่านหนังสือของนายเดย์ 2 เล่มที่ชื่อ WordPress กระแทกใจบล็อกเกอร์ และ WordPress Optimization 2 จบไปเมื่อหลายวันก่อน บางบทก็เปิดให้ผ่านตาบ้างเพราะเป็นเรื่องที่ผมเองก็ทำอยู่ โดยเฉพาะเล่มแรกในส่วนของการติดตั้งและการใช้ WordPress แบบเบื้องต้น แต่ผมก็เชื่อว่าหากผมเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้ Blogware อย่าง WordPress น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากในบทเหล่านั้น เพราะนายเดย์เค้าอธิบายเรื่องเหล่านี้ไว้เข้าขั้นละเอียดพอสมควร

ส่วนที่ผมอกจะสนใจเป็นพิเศษ จะเป็นเรื่องของการปรับแต่ง Blog นั่นแหละ เพราะช่วงหลายๆๆๆๆเดือนที่ผ่านมา ความพยายามในการหาสิ่งปรุงแต่ง Blog ของผมน้อยเต็มที ด้วยตัวงานที่ทำจะเน้นในเรื่องของ Strategy Formulation & Execution เป็นส่วนใหญ่ ทำให้การค้นหาความรู้ของผมจะไปในเชิงการพัฒนา Strategy ที่เกียวข้องกับงานซะมากกว่า จะเอาเวลาไหนไปในค้นหาวิธีปรับแต่ง blog ของตัวเอง ก็เลยต้องอาศัยความพยายามของนายเดย์ ที่เค้าถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือนี่แหละ มาช่วย ก็ลองใช้ดูเช่น Blogsticker หรือไม่ก็ FlickrRSS แต่ส่วนใหญ่จะลองทำผ่าน Local Server ก่อนแต่ยังไม่ได้ Upload ไปยัง Server จริง

แต่สิ่งที่ผมอยากให้ใครซักคนเขียนเรื่อง WordPressคือเรื่องการของสร้าง Theme ไว้ใช้เองเพราะทุกวันนี้ยังพึ่งพา Theme ของคนอื่นอยู่เลย ทั้ง ๆที่ก็รู้ๆอยู่ว่า วิธีที่จะเรียนรู้อย่างง่ายๆ(มั๊ง)ก็คือลองหัดแกะ Code ของ Themeต่างๆ ดูและก็ลองทำตาม แล้วค่อยปรับแต่ก็มิวายต้องเจียดเวลาน้อยนิดมาทำซึ่งคงอีกนานกว่าหาเวลานั้นเจอ

โดยรวมแล้วก็ถือว่าทั้งสองเล่มหน้าสนใจดี หากเป็นมือสมัครเล่นหรือมือใหม่หัดใช้Wordpress คงต้องไล่อ่านตั้งแต่เล่มแรกซะก่อน

หมายเหตุ:ยืมรูปจากtaradedu.com มาปรับหน่อยนะคุณป้อมอย่าว่ากัน
ไว้จะเขียนหนังสือให้เสร็จเร็ว ๆ :))

Tags: , , ,