นับวันผมจะยิ่งรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นทุกวันกับการต้องคลิ๊ก Delete spam email วันๆนึงผมได้รับเมลล์ประเภทนี้ไม่ต่ำกว่า 40 – 50 ฉบับจากทั้งต่างประเทศและในประเทศ  ครั้นจะตั้งค่า Spam Detection ใน Server ก็เคยเจอปัญหาว่า email บางฉบับที่ไม่ใช่ Spam ก็ไปอยู่ในถังกักเมลล์เช่นกัน ทำให้ไม่ได้รับ email ที่ต้องการ มีใครรู้บ้างว่าจะใช้ กฏหมายอะไรจัดการกับคนพวกนี้ดี แต่ที่ผมมั่นใจได้แน่นอนคือ ไม่ได้ผลหรอกครับ แถมยังโดนด่ากลับไปอีก

อยากให้คนที่ส่ง Spam email ลองนึกถึงตัวเองว่าถ้าวันหนึ่งมีคนเอา Email Address คุณไปและส่ง Spam เช่นคุณทำบ้างจะรู้สึกอย่างไร เอาง่ายๆ ใกล้ๆตัวถ้ามีคนขายสิ่งที่คุณไม่ต้องการโทร.เข้ามือถือของคุณ คุณจะรู้สึกเซ็งแค่ไหน และอีกพวกที่สมควรโดนประณามเป็นอย่างยิ่งคือ พวกที่เร่ขาย email 5 – 6 ล้าน emailราคาถูก ไหนๆก็บ่นมาถึงขนาดนี้แล้วก็เอาภาพ  ต.ย. Spam Email ในถัง Trash มาให้ดูกันข้างล่างสำหรับ spam วันนี้

Spam Email Example

Tags: ,,

เว็บไซต์ http://www.thinkandclick.com/ version ใหม่ที่เริ่ม live ไปแล้วเมื่อต้นเดือน ผมใช้ CMS ที่ชื่อ Joomla อย่างที่ผมเคยบอกไว้ใน POST เก่า ปัญหาที่ผมเจอและไม่แน่ใจว่าคนอื่นเจอด้วยหรือเปล่าคือ เมื่อผม set ค่า Meta Description และ Meta Keyword ของแต่ละบทความให้เหมาะสมกับบทความนั้น ๆ ในการทำ SEO ปรากฏว่า เมื่อได้ลอง View Source พบว่ามันดันพ่วง Global Site Meta Description และ Global Site Meta Keyword เข้ามาด้วย(หากใครไม่เคยใช้ CMS เช่น Joomla หรือ Mambo อาจจะงงบ้างก็ขออภัยด้วยจ้า..) ทั้งๆ ที่ ผมอยากให้ Global site meta…. มันแสดงในหน้าแรกเท่านั้น ดังต.ย.

 

META TAG

ผมจึงเข้าไปที่ Forum ของ Joomla เพื่อไปหาคำตอบ

ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า Joomla มี Patch ที่ชื่อว่า Joomla SEF(search engine friendly) Patch ซึ่งเป็น Patch ที่สร้างขึ้นโดย  Joomlatwork team 

สำหรับ Patch นี้ทางทีม Joomlatwork ทำขึ้นสำหรับ Search Engine Optimizer ทั้งหลายที่สร้างเว็บด้วย Joomla 1.0.7,1.0.8 , 1.0.9 และ 1.0.10 (redo-file) สำหรับท่านที่ใช้ Joomla ก็ลองไป ดาวน์โหลดได้ที่นี่ เมื่อโหลดเรียบร้อยแล้วก็ UnZip ไฟล์และ Copy ไฟล์ทับ Root directory เดิม เป็นอันเสร็จพิธีครับ และบทความแต่ละบทความก็จะมี Meta Description และ Meta Keyword ของมันเองครับ

Tags: ,, , ,

ในที่สุด Podcast ตอนที่หนึ่งก็เสร็จสิ้นหลังจาก Take เสียงกว่า 15 ครั้ง สำหรับตอนแรกที่ผมนำมาใส่ไว้ใน Blog แห่งนี้มาจาก post เก่าที่ชื่อ ทิปง่ายๆเพื่อส่ง email ให้ได้ผลจาก Vertical Response

หากใครที่ต้องการแบบฟังออนไลน์ก็สามารถกดปุ่ม play ( play button )ได้เลยครับแต่ควรจะใช้ Hi-Speed Internet นะครับ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกจะฟังผ่าน Net ก็จะมีส่วนให้ download ในแบบ MP3 ครับ (ดังภาพ)

Download

ทดลองฟังดูครับ ถ้าอยากให้แก้ไขอย่างไร comment มาได้เลยครับ

เป็น 5 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ email marketing campaign ของคุณมีคนคลิ๊กมากขึ้น(Click through rate แก้ไขจากครั้งที่แล้วที่พิมพ์เป็น open rate) นำมาจาก email ที่ Vertical Response ซึ่งบริษัทที่ให้บริการด้าน Email Marketing ส่งมาให้

  1. ใช้ Bullet  – เพราะคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะอ่านโดยใช้วิธี Scan ดังนั้นการใช้ bullet เน้นหัวข้อสำคัญจะทำให้อ่านง่ายและชักชวนให้ผู้อ่านคลิ๊กอ่านต่อในส่วนที่เราต้องการนำเสนอได้ง่ายกว่า
  2. เอาไว้บนๆ - นำเรื่องหรือสิ่งที่เราต้องการสื่อให้ผู้อ่านได้รู้มากที่สุดไว้ตอนบนๆของ email เพราะถ้าผู้อ่านใช้โปรแกรมอ่านเมลล์อย่างเช่น Outlook Express ฯลฯ เนื้อหา email ของเราจะอยู่ใน preview pane ถ้าหากเนื้อเรื่องตอนบนไม่ค่อยน่าสนใจ ก็มีโอกาสที่ผู้อ่านจะไม่คลิ๊กอ่านต่อOutlook Express
  3. เลี่ยงการโลโก้ใหญ่ๆด้านบน – เพราะกินเนื้อที่ของเนื้อหา email ด้านล่างนะซิ
  4. เลี่ยงการใช้ฟ้อนส์สีๆ- อย่างเช่นสี magenta, yellow, green เนื่องจาก Spam Filter ส่วนใหญ่มอง Email ประเภทนี้ว่าเป็น Spam ฉะนั้น ใช้สี ดำ หรือ ฟ้าดี จะดีกว่า
  5. ส่งต่อให้เพื่อน – ใส่ link หรือ script สำหรับให้ผู้อ่านส่งต่อก็จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้อ่านได้มากขึ้นก็เป็นได้จ้า
    Forward to your friends

หาอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมที่ 5 Tips on How to Spruce Up Your Content to Get a Better Response To Your Email

Tags: ,,,

ช่วงปี สองปีมานี้ กระแสการทำการตลาดผ่าน search engine marketing โดยเฉพาะการทำ Search Engine Optimization(SEO) ค่อนข้างมาแรง หลายๆบริษัท หรือพ่อค้าแม่ค้าE-Commerce เริ่มให้ความสนใจที่จะโปรโมทเว็บผ่าน Search Engine

Search Engine Marketing 2.0 by Globletสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความนิยมในการทำ SEM คือมีข่าวหรือบทความที่เกี่ยวกับSEM มากขึ้น และล่าสุด ที่ผมได้ไปเห็นมา เป็นหนังสือเกี่ยวกับ SEM ล้วนๆ ที่ชื่อ ” Search Engine Marketing 2.0 “ จึงได้ซื้อติดมือกลับมาจากร้าน KINOKUNIYA ร้านเจ้าประจำที่ผมต้องไปเป็นร้านแรกทุกครั้งที่ไปสยามพารากอน

ผมไม่แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เท่าที่ได้ดูจากปกใน เห็นว่าพิมพ์ครั้งแรกคือ พ.ค.49(เพิ่งออกนี่หว่า…) หลังจากได้พลิกอ่านไปหลาย ๆหน้าก็เห็นว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจดี แต่ที่ผมชอบคือการยกกรณีศึกษาของการทำSEM โดยผู้ประกอบการคนไทยอย่างเช่น SiamFlorist.com,JobsDB.com,โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น ผมว่าหนังสือเล่มน่าจะเหมาะกับผู้เริ่มต้นจะทำ Search Engine Marketing ราคาของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ 290 บาท(แต่ผมซื้อที่ KINO. ได้ลด 10% เพราะเป็นสมาชิกของร้านนี้อยู่)

Search Engine Marketing Inc.by Mike Moran and Bill Huntไหนๆก็แนะนำหนังสือเกี่ยวกับ SEM ของไทยแล้วก็ขอแนะนำของต่างประเทศบ้าง ซึ่งเล่มนี้ คนที่ทำ SEM ควรมีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง คือ ” Search Engine Marketing Inc. : Drive Traffic to your company website ” โดย Mike Moran และ Bill Hunt เป็นหนังสือที่ไม่บอกคุณแค่ SEM Tactics แต่ยังสอนคุณตั้งแต่การวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดผ่านเสิร์ชเอ็นจิ้น การนำไปใช้และการวัดผลสำเร็จ หนังสือหนากว่า 560 หน้า ในราคา 2,995 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ผมซื้อมาจาก Asiabook ครับ อาจจะแพงซักหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอนครับ !

Winning the results with Google Adwords by Andrew Goodmanส่วนเล่มสุดท้ายคือ ” Winning Results with Google Adwords โดย Andrew  Goodman “ ผมไม่ขอกล่าวอะไรมากเพราะสิ่งที่บอกไว้บนปกหลังต่อไปนี้ได้บอกไว้ชัดเจนว่ามันช่วยอะไรคุณได้บ้างในการทำ Google Adwords

  • Learn to use the Google AdWords Keyword Tool to your advantage
  • Maximize existing and familiar keywords–and remove negative search phrases
  • Increase conversion rates and determine which traffic-tracking methods are right for you
  • Systematically test ad copy and develop a plan for ongoing keyword discovery
  • Adjust your ad campaign based on the ROI data you collect
  • Gain new customers and retain customer loyalty through smart ad copy and personalization
  • Zoom ahead of your competitors by using AdWords rapid feedback cycles
  • Filter out inappropriate or irrelevant prospects

ราคาไม่แพงเท่าไหร่ครับ 795 บาท(ราคาจาก Asia Book) กับความหนากว่า350 หน้าและความรู้ในทุกแง่มุม(จริงๆ)ของเล่มนี้

Tags: ,,,,,,,