เมื่อคืนวานเปิด http://www.maximumboy.comขึ้น เป็นอันให้ต๊กกะใจ หน้าตาบล็อกของฉันเปลี๊ยนไป๋ ให้สงสัยเป็นอย่างยิ่ง ว่าโดน Hack Domain เข้าแล้วเหรอ พิจารณาหน้าที่ปรากฏขึ้นมาสักพัก ก็ถึงบางอ้อ ก็เราดันลืมต่ออายุ domain name นี่เอง แต่เพื่อความแน่ใจก็เข้าไปเช็ค email ที่เราใช้จด Domain Name ก็มีการแจ้งล่วงหน้าว่า Domain Name นี้จะหมดอายุแล้วนะอีกวันเดียว แต่วันที่มี email มาเตือนเราดันไม่ได้เปิด email นี้เสียนี่ เพราะปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้

 

วันนี้ก็เลยต้องไปโอนเงินเพื่อต่ออายุโดเมนเนมในช่วงสาย แล้วสักพักก็ได้ หน้าเว็บบล็อก maximumboy.com กลับมา แต่ก็ใช้ไม่ได้เต็มที่เพราะดัน FTP ไม่ได้ จนตอนนี้ยังftp ไม่ได้เลย เพิ่งจะแจ้งไปทางคนดูแล ไม่รู้จะแก้ปัญหาให้ได้มั้ย ดังนั้นรูปที่เห็นด้านบน เกิดจากการที่ผมเอารูปไปฝากเว็บอื่นไว้ด้วยประการละฉะนี้

Tags: , , ,

Casanova - The Divine Comedyมาขั้นเวลากับช่วง Get Relaxed อีกครั้ง ครั้งนี้ย้อนกลับไปในปี 1996 กับเพลง Song Of love ของ The Divine Comedy ร้องโดย นาย Neil Hannon ชื่อวงนี้ก็มาจากวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของยุโรปที่เขียนขึ้นโดย ดังเต้ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของ 3 โลกได้แก่ นรก(hell) , สวรรค์(Paradise) และ purgatory ซึ่งเป็นสถานที่ที่วิญญาณรับโทษทัณฑ์ก่อนขึ้นสวรรค์

อัลบั้มล่าสุดของ The Divine Comedy คือ Victory for the Comic Muse ออกเมื่อปีที่แล้วครับ แต่ผมขอหยิบงานเก่าจากชุด Cassanova ออกในปี 1996 ที่ผมยังชื่นชอบมาให้ลองฟังกัน

Neil Hannon เล่าถึงบรรยากาศรอบ ๆ ขณะที่เขากำลังแต่งเพลงรักให้เราฟัง … ” ดูเหล่านกโบยบินไปรอบๆนั้นซิ ดูบางเบาจนฉันอยากนำมันมาไว้ในเพลงรักของฉัน

Pale, pubescent beasts
Roam through the streets
And coffee-shops
Their prey gather in herds
Of stiff knee-length skirts
And white ankle-socks

But while they search for a mate
My type hybernate
In bedrooms above
Composing their songs of love

Young, uniform minds
In uniform lines
And uniform ties
Run round
With trousers on fire
And signs of desire
They cannot disguise
While I try to find words
As light as the birds
that circle above
To put in my songs of love

Fate doesn’t hang on a wrong or right choice
Fortune depends on the tone of your voice
So sing while you have time
Let the sun shine down from above
And fill you with songs of love

Fate doesn’t hang on a wrong or right choice
Fortune depends on the tone of your voice
So lets sing while we still can
While the sun hangs high up above
Wonderful songs of love
Beautiful songs of love

=========================================

Tags: , , , ,

eDMใน ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ 2 ผมเล่าถึงหลัก 3 ถูกในการส่ง Direct Mail (DM) หรือ e-DM (E- Direct mail หรือ email marketing)ได้แก่ ถูกกลุ่ม ถูกใจ ถูกกาล โดยหยิบข้อแรกที่พูดถึงการส่งถูกกลุ่ม คือการเลือกกลุ่มที่จะส่งให้ถูกต้อง

2.ถูกใจ คำก็บอกอยู่แล้วว่า ถูกใจ หรือที่ภาษาอังกฤษเข้าเรียก satisfied หากคุณต้องการให้ผู้รับตอบกลับแต่สิ่งที่คุณเสนอกลับเป็นสิงที่เขาไม่ต้องการก็เสียเวลาและเงินตราโดยเปล่าประโยชน์ เหมือนกับเวลาคุณกำลังจีบหญิงหรือหนุ่มก็ไม่ว่า เวลาไปออกเดททานอาหารเย็น เขาหรือเธอรักสุขภาพชอบทานน้ำผลไม้ แต่คุณดันสั่งไวน์เสียนี่ เขาหรือเธอก็คงคิดว่าตานี่หรือยัยนี้ขี้เมาเปล่านะ

3.ถูกกาล คุณเคยอยากได้ในสิ่งบางสิ่งที่คุณไม่มีปัญญาที่จะหามาหรือต้องรอกว่าจะได้สิ่งนั้นมา แล้วเมือเวลาผ่านไปความต้องการก็ลดลงเรื่อยๆ จนไม่รู้สึกอยากในที่สุดมั้นครับ ตรงนี่ผมขอโยนคำถามง่ายๆว่า “คุณจะรอให้เขาหมดความอยากไปหรือไม่ ? ”

นั่นแหละครับคือหลัก 3 ถูกที่ผมใช้

ผมขอเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านไม่นานนี้เองครับ โดยนำหลัก 3 หลักนี้มาใช้ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทที่ผมทำงานอยู่ได้ไปออกงาน Event ซึ่งเป็นงานที่กลุ่มคนรักการตกแต่งบ้าน สถาปนิก วิศวกร เจ้าของโครงการบ้าน คอนโด หรือผู้อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจะไปชมงานเพื่อหา Idea ในรังสรรค์บ้าน ตึก หรือโครงการของตนเอง รวมทั้งหาคู่ค้าหรือ Supplier ที่เหมาะสม บริษัทที่ผมทำอยู่ออก Event ทุกปีครับ แต่ปัญหาที่เกิดคือ หลังจากจบงาน แม้เราได้ Database กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากการเข้าลงทะเบียนชมBooth แต่ไม่ได้การทำกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างเนื่อง ทำให้ฐานข้อมูลที่ได้มากลายเป็นขยะข้อมูล

มาในปีนี้ เป้าหมายหนึ่งของการเก็บฐานข้อมูลผู้เข้าชม booth คือการสร้างฐานข้อมูลกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แยกกลุ่มเป้าหมายออกเป็นกลุ่มหลัก(เราเรียกกลุ่มนี้ว่า มืออาชีพ)และกลุ่มรอง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมีการแยกย่อยออกมาเองเพื่อที่ในการทำ CRM และเพื่อให้ได้ Lead ที่ชัดเจน แต่ผมคงไม่ขอพูดว่ากลุ่มย่อยมีอะไรบ้าง จากนั้นเริ่มทำแคมเปญที่ต้องผ่านสืออิเล็คทรอนิกส์(e-Marketing Campaigns)อย่างต่อเนื่อง

ในขั้นแรกที่ทำคือการเก็บฐานข้อมูล ผู้ที่เข้าชมบู๊ทของบริษัทจะต้องกรอกข้อมูลชื่อเบอร์/โทร.มือถือ/email/อาชีพ จะสังเกตุว่า ผมไม่เก็บข้อมูลที่อยู่ ทำไมน่ะหรือ ??? ก็จะได้มีลูกเล่นต่อไงล่ะครับ เดี๋ยวได้รู้กันครับว่าทำไ

Read More →

electronic direct mailอย่างที่เคยเล่าเอาเมื่อตอนที่แล้วใน ข้อเสนอ(Offer)ที่ยากปฏิเสธ 1 เป้าหมายหนึ่งในการทำDM หรือ e-DM คือการได้รับการตอบกลับจากกลุ่มเป้าหมาย แน่นอนว่าเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้น สิ่งจูงใจให้ผู้รับตอบกลับเรามา(Call-to-Action)คือ Offer หรือ ข้อเสนอ และข้อเสนอนั้นควรเป็นข้อเสนอที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกยากที่จะปฏิเสธ

หลักที่ใช้ในการเลือก Offer ที่ผมมักใช้อยู่เสมอ คือหลัก 3 ถูก ได้แก่ ถูกกลุ่ม ถูกใจ ถูกกาล

1. ถูกกลุ่ม ในการทำแคมเปญสำหรับ Direct Mail(DM) หรือ electronic Direct mail(e-DM หรือ email marketing ที่พวกชอบ SPAM ชอบทำกันนัก) นั้น หากเราส่งจดหมายออกไปโดยไม่เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เรามีจำนวนฐานข้อมูลมากแค่ไหนก็ส่งไปให้หมด โดยหวังว่ายิ่งส่งมาก โอกาสที่จะมีคนตอบกลับเราก็จะมากตามไปด้วย แต่มันไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป

สมมติว่า เราทำโรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์ประเภทเว็บโปรแกรมมิ่ง เราต้องการเพิ่มยอดผู้เรียนในวิชา “Advanced PHP Programming” ให้ได้ 10 % เรามีฐานข้อมูล 10,000 ชื่อที่มีทั้งโปรแกรมเมอร์ประเภทต่างๆและที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ และเราก็ส่งไปคอร์สวิชานี้พร้อมข้อเสนอลดพิเศษ 50% แต่มีผู้ตอบรับกลับ(Response)มายังไม่ถึง 50 คนหรือ 0.5 %(Response Rate) แม้ว่าตัว Offer คือส่วนลดจะน่าสนใจแต่การตอบรับดูจะไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ ถ้าเราส่ง email ในเชิงต้นทุนแล้วยังไม่ค่อยสูงเท่าใด แต่ที่เสี่ยงหน่อยคือภาพลักษณ์ของคุณในสายตาผู้รับอาจจะไม่ค่อยดีนัก ยิ่งถ้าส่งด้วยไปรษณีย์ธรรมดาแล้วต้นทุนต่อหัวคงจะสูงจนน่าตกใจ

แต่ถ้าหากปรับวิธีการส่งใหม่โดยทำการ Segment หรือแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ช้ดเจน เช่น เป็นโปรแกรมเมอร์หรือไปเป็น ถ้าเป็นแบ่งย่อยเป็นโปรแกรมเมอร์ประเภทไหน แบบ Visual Basic แบบ php เบื้องต้น หรือแบบศึกษามาบ้างแล้ว ฯลฯ ก็จะทำให้ จดหมายที่จะส่งออกไปตรงกลุ่มมากขึ้น สมมติถ้าเราแบ่งแยกว่าส่งไปยังกลุ่ม PHP Programmer ที่เขียนโปรแกรมมาบ้างแล้ว 1 – 3 ปีต้องการหาความรู้เพิ่มเติม ซึงภายหลังพบว่ามีอยู๋ในDatabase list ประมาณ 2000 คน ฉะนั้น Response Rate ก็จะอยู่ที่ 25 % ของจำนวน mail ที่ส่งออกไป(50*100/2000) ซึ่งถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า ยิ่งถ้าส่งไปรษณีย์ปกติก็ลดต้นทุนไปได้เยอะ แถมส่งได้ถูกกลุ่มอีกด้วยครับ

ครั้งหน้าเราจะมาต่อกันให้จบเลย กับสองข้อที่เหลือ พร้อม Case Studies ที่มาจากประสบการณ์จริงครับ

[tags]Direct Mail,DM,e-DM,Electronic Direct Mail,response,response rate,email marketing,segmentation[tags]

email marketing offerคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการส่ง email (e-DM: e-Direct Mail)หรือ ไปรษณีย์(DM: Direct Mail) มีบทบาทมากขึ้นทำการตลาดในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ไม่ว่าจะทำเพื่อสร้างฐานข้อมูลลูกค้าใหม่หรือรักษากลุ่มลูกค้าเดิมไว้ หรือแม้แต่การขายของผ่านDM และสิ่งที่นักการตลาดคาดหวังจากการส่งคือ การตอบกลับจากผู้รับ อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักการตลาดตรงมือใหม่มักพลาดคือการนำเสนอ Offer ที่ดี หรือการละเลยการวัดผลจากการส่ง DM หรือ e-DM

การส่ง e-DM หรือ DM เป็นวิธีการหนึ่งในการทำการตลาดแบบ Direct Marketing และลักษณะ 3 ประการของ Direct Marketing ที่ผมเคยเขียนไว้ใน http://www.thinkandclick.com/ เรื่อง CRM& database marketing ความเหมือนที่แตกต่าง(ภาคหนึ่ง) คือ

  • สื่อสาร 2 ทาง(Interacitivity): เป็นการทำการตลาดแบบสื่อสาร 2 ทางระหว่างผู้ส่งสาร/เจ้าของสินค้าหรือบริการ/นักการตลาดกับผู้รับสารหรือลูกค้า/กลุ่มเป้าหมาย
  • วัดค่าได้(Measurable) : สามารถวัดค่าได้อย่างค่อนข้างแน่นอนว่าเมื่อมีการส่งสารไปแล้วมีการตอบสนองมากน้อยเท่าไหร่
  • กิจกรรมเกิดขึ้นที่ใดก็ได้(Activities at any Location) : กิจกรรมที่วัดค่าได้นี้จะเกิดขึ้นที่ใดๆ ก็ได้ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง

ดังนั้น ทุกครั้งที่ทำ DM หรือ e-DM จำนวนผู้รับและตอบกลับเมลล์ที่เราส่งไปก็ คือเป้าหมายหนึ่งในการใช้เครื่องมือทางการตลาดตัวนี้ แล้วอะไรเล่าเป็นสิ่งที่ทำให้เป้าหมายบรรลุผล ก็ OFFER ไงล่ะครับ

ครั้งหน้าเรามาว่ากันต่อในเรื่องของ OFFER ที่ยากปฏิเสธครับ

Tags: , , , , , , , ,