จากการเฝ้าสังเกตุจาก Live Feed ของเพื่อนใน Facebook สิ่งที่เราจะเห็นบ่อยมากคือ การโพสก์เรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ก็มีไอเดียที่จะทำ Facebook Page ขึ้นมาเพื่อจะให้เป็นแหล่งชุมนุมคนชอบกิน ชอบเรื่องอาหาร ประจวบกับเจอน้องคนนึงใน Facebook ซึ่งเป็น friend กันอยู่และผมเห็นเค้าโพสก์เรื่องอาหารการกินถี่มากๆ ที่นี้ก็เลยเป็นเรื่องเลย คิดได้ดังนั้น ก็ถามเค้าว่าว่าสนใจมั้ย จะทำ Page เกี่ยวกับอาหารน่ะ และไม่กี่ลมหายใจ ก็ได้รับการตอบรับ เป็นอันว่า ความฝันที่ว่าจะทำpage เกี่ยวกับอาหารก็เป็นรูปเป็นร่าง และเป็นผลให้อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เปิด Facebook Community Page ที่เกี่ยวกับ อาหารขึ้นครับ และก็เป็นครั้งแรกได้ร่วมงานกับ คนที่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลย แต่มีใจรักเรื่องเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาทำแต่ของที่ทำงานกับส่วนตัว
ทีนี่้ ก็ถึงเรื่องชื่อล่ะ แรก ๆ น้องเค้าก็เสนอมาเป็นเรื่องกินเรื่องเที่ยว ซึ่งทำให้ Focus 2 เรื่อง ขอพูดถึงเรื่องการเลือกชื่อที่จะมาทำ FB Page นิดหนึ่งครับ สำหรับคนที่ยังคิดจะทำ Page นั้นขอย้ำอีกครั้งว่า ตั้งชื่อแล้ว เปลี่ยนไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้น คิดใคร่ควรญให้ดีก่อนตั้งชื่อครับ และชื่อที่ดีที่ควรใช้ควรจะบ่งบอกว่า page นั้นมีเรื่องราวอะไรบ้าง สมาชิกทำอะไรได้บ้าง ทำแล้วได้อะไร สำหรับชื่อที่เลื่อกใช้หลังจากที่ได้คิดกันนั้น จนท้ายที่สุดเหลือแต่การ Focus เรื่อง อาหาร แบบเนื้อๆเน้น เิอาใจคนรักกินสุดๆว่า “Food aholic !” ซึ่งน้องเค้าเป็นคนคิดขึ้นมา
เมื่อได้ชื่อแล้วผมก็ทำการสร้าง Page ผ่าน Account ผม โดยเข้าสร้างที่ www.facebook.com/page แล้วผมก็เลือก เป็น community page เพราะ เราเองไม่ได้เป็น Brand หรือ Celeb ไม่อยากเสี่ยงกับการโดน remove จาก Facebook ครับ
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว เนื่องจากเป็นการทำของ 2 คน ผมก็เลยทำการ Make Admin เพื่อให้น้องเค้าสามารถเข้ามา Post เรื่องราวในฐานะ Admin ได้ ฝากไว้นะครับว่า คนที่ไม่ใช่ Admin หลักจะต้องทำการกด Like สำหรับ Page นี้ก่อนครับ ถึงจะให้ Admin หลักสามารถ Make Admin ให้อีกคนได้ โดย เลือกที่ See All ตรง People Like This
ที่นี้ก็เป็นเรื่องของ info ของ Page เนื่องจากเป็นเรื่องของอาหาร และเราต้องบอก Description ให้ชัดว่า เป็น Page อะไร และทำอะไรได้บ้าง น้องเค้าให้ Description ไว้่ว่า
“สังคมของคนรักอาหารในทุกสถานะ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักชม นักช็อป นักชิม หรือนักปรุงอาหาร และไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้น หรือเข้าขั้นเทพ
มาร่วมแบ่งปันความประทับใจ ความสุขบนความอร่อย เมนูที่ชื่นชอบ ร้านอาหารน่าลิ้มลอง สูตรอาหารต่างๆ หรือสาระน่ารู้มากมาย
อย่าเก็บสิ่งดีๆ ไว้กับตัวเองคนเดียว …บอกเราบ้างซิคะ”
ก็เป็นการบ่งบอกเลยว่า คนรักการกินก็เข้ามา แบ่่งปันกันเรื่องของอาหาร คุณไปชิม ไปเจออาหาร เครื่องดื่ม อะไรน่าสนใจก็เข้าPost ได้เลย ผมค่อนข้างโชคดีที่น้องเค้ารู้เรื่องอาหารเยอะ หน้าที่ปรุงเนื้อหาให้อร่อยก็ให้น้องเค้าไปทำเลย ส่วนผมเข้าไป Post บ้างประปราย ก็จะดูเรื่อง การโปรโมท การวัดผลไป
เมื่อได้ทำ Page เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องทำการประชาสัมพันธ์ ซึ่งอย่างง่ายที่สุดแลเร็วที่สุดคือการ Invite จากหน้า Page ซึ่งผมใช้วิธีนี้ไปในวันถัดมาและเมื่อรวมคนที่ได้รับการ Invite จากชื่อ Friend ของแต่ละคนรวมกันแล้วก็ประมาณ 1000 คน และสิ่งที่ผมต้องการให้กลับมาในวันที่สองอย่างน้อย 25 คน แต่เพราะน้องเค้ามีขาประจำนักกินอยู่ ทำให้จำนวน 25 คนที่ต้องการกลับมาภายใน 1 วัน ซึ่งดีพอสมควร
คำถามคือทำไมต้อง 25 คน ? เพราะเมื่อคุณมีสมาชิก 25 คนสำหรับ Page คุณก็สามารถตั้ง Vanity URL ได้ในแบบ www.facebook.com/ ชื่อpage ที่ต้องการ ซึ่งเราเลือกกันเป็น www.facebook.com/thefoodaholic ทีมี the ก็เพราะ foodaholic เฉยๆมีคนเอาไปแล้ว เอาไปเป็น Personal Profile Account
หลังจากได้ 25 คนแล้วในวันถัดมาผมทำการ Invite และทำให้คนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากนักจากการทำ Invite ไปแล้วจนถึงวันนี้(28 เมย 53) รวม 5 วัน มีจำนวนเฉียด 180 คน หรือประมา่ณ 18% ซึ่งถือว่าสูงพอประมาณในฐานะที่ Page นี้ไม่ใช่ Page ของ Celeb หรือ Brand
นอกจากนี้ ผมก็ยังทำการประชาสัมพันธ์ผ่าน Twitter ( www.twitter.com/maximumboy ) เพื่อให้ Follow เข้ามาเป็นสมาชิก แต่พูดกันจริงๆแล้ว กลุ่มเป้าหมายบน twitter นั้นค่อนข้างเป็นคนละกลุ่ม คนละ Behavior บางคนใช้ Twitter แต่อาจจะไม่ได้เข้ามาใช้ Facebook บ่อย ซึ่งทำให้ได้คนจาก Twitter น้อยกว่า และผมก็ไม่ได้ืทำ Campaign บน twitter ในลักษณะของ Call-to-Action (เห็นแล้วทำตามหรือตอบกลับ เช่น Click link นี้ กด LIKE แล้วได้แต้ม ฯลฯ) ทำให้คน twitter น้อยหรือไม่มีเลยอันนี้ไม่แน่ใจ
สำหรับขั้นต่อไปสำหรับการทำให้ Page ของคุณคงอยู่คือ การ Update Update และ Update รวมทั้งมี กิจกรรมต่างๆ ซึ่งคิดว่า อนาคตต้องมีแน่ ๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับฐานสมาชิกไว้ ซึ่งเป็นการทำ CRM นั่นเองครับ
ไว้มีโอกาสผมจะมาคุยเรื่องของการทำ CRM ของ Facebook Page ให้ฟังครับ
ท้ายนี้ฝาก www.facebook.com/thefoodaholic ไว้ด้วยครับ
Pingback: Tweets that mention สังคมคนรักอาหารบน Facebook | Maximum BOY -- Topsy.com