บทความนี้เป็น บทความแรกที่ผมเขียนไว้ในคอลัมน์ใหม่ที่ชื่อ eBusiness 360 องศา ซึ่งทาง บ. ARIP ได้เปิดคอลัมน์ใหม่ ในหนังสือ eLeader/eEnterprise ในคอลัมน์นี้ ผมจะเล่าเรื่องต่างๆที่น่าสนใจของวงการ eBusiness และ เป็นแนวทางให้องค์กรต่างๆนำไปเป็นแนวคิด ปรับใช้เพื่อประโยชน์ต่อองค์กรของท่าน

ติดตามบทความของผมได้ในหนังสือ eLeader/eEnterprise ตั้งแต่ ม.ค. 2557 หลังจากหนังสือออกขายไปในระยะเวลาพอควรผมจะนำมาลงไว้ให้อ่านกันครับ

จับตา e-commerce 2014 ไทยไปทางไหน

จากการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในสิ้นปี 2556 มูลค่าตลาด e-Commerce จะเติบโตอยู่ราวๆ 25-30 % โดยมียอดรวมประมาณ 1.32-1.35 ล้านบาท (เนื่องจากการปิดต้นฉบับก่อนสิ้นเดือน ธันวาคม 2556 ผู้เขียนขอยกเอาข้อมูลหลังครึ่งปีแรกมาอ้างอิงก่อนครับ) และคาดว่าจะเติบโตอีกในปีถัดๆไป

และปี 2557 นี้ จะเป็นปีที่องค์กรต่างๆ จะละเลยไม่ได้เลยในการนำเครื่องมือด้านดิจิตอลมาใช้ หรือรุกเข้าไปสู่ช่องทาง e-commerce ก่อนที่เราจะมองทอดตายาวๆออกไปในปีนี้ ผู้เขียนจะขอรีวิว สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการ e-commerce สำคัญๆ ในปีที่ผ่าน มาให้ฟังสักนิด

2556 ยุคเริ่มต้นช้อปปิ้งระบบสัมผัส(Touch Screen Shopping)

ปี 2556 ถือว่าเป็นอีกปีที่ e-commerce และ m-commerce ของไทยเติบโตอย่างเห็นได้ชัดด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเฟื่องฟูของสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ค ที่หลายๆคนใช้เป็นช่องทางในการขายสินค้า หรือการที่ผู้ประกอบการตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงระดับบิ๊กๆ นำสินค้าของตนไปนำเสนอผ่านแอพพลิเคชั่นที่เล่าด้วยภาพอย่างอินสตาแกรม(instagram) เหตุผลที่ทำให้การช้อปปิ้งผ่านมือถือมีมากขึ้นนั้น ก็มาจาก อานิสสงค์ของ 3G ที่ทำให้คนไทยได้ใช้งานได้โมบายล์อินเตอร์เน็ทได้เร็วขึ้น ประกอบกับ ค่ายมือถือหลายค่ายดันมือถือแบบ Smart Phone ลงสนามกันคึกคัก แค่ขอให้มี facebook, twitter , instagramและโปรแกรมแชท ผู้บริโภคก็ยินดีหามาเป็นเจ้าของแล้ว และจากข้อมูลวิจัยของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ ได้ทำการสำรวจ ผู้ที่เคยใช้โซเชียลมีเดีย 22,421 คน มีผู้ที่เคยซื้อสินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดียจำนวน 11,139 คน คิดเป็นร้อยละ 49.7 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงพอสมควร และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ