จากนี้ไปจะได้เห็นข้อเขียนของผมที่เกี่ยวกับ emarketing e-commerce eอะไรก็ตาม ลดลง ๆ ๆ ๆ ๆ และ ลดลง เพราะเริ่มเบื่อการเขียนบล๊อกข้อมูลแบบนี้ซะแล้ว เคยคิดว่างานเขียนแบบด้านนี้จะมีความสุข แต่หลังจากได้ดูหนังและเพลิดเพลินกับมันอย่างจริงจัง ความสุขใส่ตัวที่แท้จริงก็คือ ดูหนัง อ่านหนังสือ และที่สำคัญการหาเงินเพื่ออนาคต
เขียนบล็อกทำอะไรให้เราบ้าง นอกจากให้ความรู้คนอื่นที่ดูเหมือนจะมีความสุข ซึ่งปัจจุบันเว็บไซต์หรือบล็อกด้านนี้มีมากกว่าเมื่อช่วงที่ผมทำ http://www.thinkandclick.com/ ในยุคแรกๆที่ content ประเภท E-Marketing/E-Business Knowledge Websiteในตอนนั้นมีไม่มากนัก แต่ปัจจุบัน มันโผล่ขึ้นมาเยอะมาก ผมถือคติว่าอะไรที่มีเยอะแล้วไม่ทำ ถ้าทำต้องดีกว่า เจ๋งกว่า ถ้าไม่ดีกว่า เจ๋งกว่า ไม่ทำ!
ย้อนเวลากลับไป วันไหนเขียนบล็อก อย่างน้อยหนึ่งชม.หรือมากกว่า เรื่องไหนยาวหน่อยก็นานหน่อยเพราะบางเรื่องต้องอาศัยข้อมูล Support เยอะก็ต้องคุ้ยหาทั้งในเน็ต ทั้งในหนังสือที่บ้านที่มีอยู่เต็มบ้านจนล้นไปหลายบ้านแล้ว(เผอิญมีหลายที่ซุกหัวง่ะ) ยิ่งตอนนี้มี Website ให้บริหารถึง 3 เว็บทั้งเว็บของที่ทำงาน ทั้ง E-Marketing Consult and Marketing Project ที่รับมาจากเพื่อน 2 site ก็เกือบเต็มอัตราศึกแล้ว แต่สำคัญได้ตังค์ นี่ก็ทำให้ความเหนื่อยหมดไป ยามว่างฟังเพลง ดูหนัง ดู VCD/DVD แค่นี้ชีวิตก็เป็นสุขแล้ว จะ promote ตัวเอง อีกไปทำไม(หรือใครจะเถียงว่า การเขียนบล็อกไม่ใช่เหตุผลหนึ่งในหลายเพื่อให้คนอื่น Recognize คุณในด้านนั้น ๆ)
ผมเขียนบล็อกแล้วเสียอะไรบ้าง
- เวลาที่เจียดให้และบริหารมัน
- เวลาที่ต้องคิดและทำ marketing เพื่อให้บล็อกติดอันดับและให้คนรู้จัก
- เงินค่าเช่า Host
- เงินค่า Domain Name
ผมไม่เขียนบล็อกแล้วเสียอะไรบ้าง
- ใครนึกออก บอกผมด้วย อย่าบอกว่าคุณอดอ่าน
” เฮ้ย ๆๆ บ่นอะไรอยู่ฟ่ะ ” เสียงในหัวผมตะโกนใส่
“เออ ตรู ไปอ่าน ยาแก้สมองผูก ตรา ควายบิน ต่อก็ได้ฟ่ะ ” ผมแหกปากใส่มัน (ยาแก้สมองผูก ตรา ควายบิน เป็นหนังสือที่เขียนโดย วินทร์ เลียววาริณ ซื้อมาเมื่อตอนงานมหกรรมหนังสือที่ผ่านมา)
Blog แห่งนี้อาจจะกลายเป็นเพียง dairy บันทึกการทำงานของผมที่ผมจะเก็บไว้อ่านเอง ในอนาคต!